สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับความคืบหน้าเกี่ยวกับ แนวโน้มการฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ในสหรัฐ เร็วๆ นี้ ซึ่งอาจช่วยให้ เศรษฐกิจฟื้นตัว เร็วขึ้นในปีหน้า และความต้องการใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้นตาม นอกจากนี้ นักลงทุนยังคาดหวังว่า สหรัฐจะออก มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้ในไม่ช้านี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.26 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 46.78 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 1.39 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 50.25 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดตลาดเหนือระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรลได้เป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือนนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งสัญญาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ตลาดน้ำมันขานรับแนวโน้มที่เศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันจะฟื้นตัวขึ้น หลังจากมีรายงานว่าสำนักงานอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐประชุมกันในวันพฤหัสบดี (10 ธ.ค.) และมีแนวโน้มว่าจะอนุมัติการใช้วัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์เป็นกรณีฉุกเฉินในเร็วๆ นี้ ซึ่งหากได้รับการอนุมัติ ก็อาจจะทำให้การฉีดวัคซีนดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นได้ภายในช่วงสุดสัปดาห์นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดาวโจนส์ปิดลบ 69.55 จุด วิตกข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐชะลอตัว
พยากรณ์อากาศวันนี้ เหนือ-อีสาน อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิสูงขึ้น 1-3 องศา
ตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนหลังจากนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐระบุว่า การเจรจาระหว่างวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่นั้นมีความคืบหน้าอย่างมาก และคาดว่าจะมีการหารือกันต่อไป
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนจากรายงานที่บ่งชี้ว่า ความต้องการใช้น้ำมันในจีนเพิ่มขึ้นเกินกว่าระดับก่อนเกิดโรคโควิด-19 ระบาดแล้ว และมีรายงานว่าโรงกลั่นน้ำมันของจีนเริ่มดำเนินการผลิตน้ำมันมากขึ้นด้วย