ธุรกิจ“ตีนไก่”หมื่นล้านหยวนในจีน โอกาสทองส่งออกไทย

12 ม.ค. 2564 | 12:29 น.

ส่องธุรกิจหมื่นล้านหยวนใต้ “ตีนไก่”ในจีน โอกาสส่งออกไทยที่ไม่ควรมองข้าม ชี้ตลาดโตวันคืน ยอดนำเข้ากว่า 1 หมื่นล้านตีนต่อปี ผู้บริโภคยุคใหม่กระแสแรง ยอดนำเข้าจากไทยพุ่ง 100%

 

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ(สคต./ ทูตพาณิชย์) ณ เมืองชิงต่าว สาธารณรัฐประชาชนจีน รายงานโดยอ้างข้อมูลสื่อจีนว่า ปัจจุบันพบว่า ในทุก ๆ ปีจีนจะมีการนำเข้าตีนไก่กว่า 10,000 ล้านตีนจากทั่วโลก ขณะที่ชาวจีนมีการบริโภคตีนไก่เฉลี่ยปีละประมาณ 20,000 – 30,000 ล้านตีน หรืออาจกล่าวได้ว่าชาวจีน บริโภคตีนไก่เป็นปริมาณมากเกือบหมดโลก

 

โดยจากการสำรวจธุรกิจอาหารประเภทตีนไก่ในร้านอาหารประเทศจีน พบว่า ร้านหวางเสียวหลู่ (王小卤) ซึ่งเป็นร้านขายอาหารจำพวกพะโล้ของจีน โดยเฉลี่ย 1 ปี มีการจำหน่ายตีนไก่พะโล้บนแพลตฟอร์ม Tmall ทั้งสิ้น 40 ล้านห่อ และในช่วงเทศกาลลดราคา 11.11 ที่ผ่านมา มียอดขายตีนไก่สูงถึง 20 ล้านหยวน หรือประมาณ 90 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นยอดขายที่สูงเป็นอันดับหนึ่งของอาหารว่างประเภทเนื้อไก่ (อัตราแลกเปลี่ยน 1 หยวน เท่ากับ 4.5 บาท)

 

ผลิตภัณฑ์อาหารประเภทพะโล้ เป็นอุตสาหกรรมอาหารเฉพาะของจีนที่มีการพัฒนามาอย่างยาวนาน โดยพบว่าหลังจากจีนเปิดประเทศ และมีการพัฒนาการทำปศุสัตว์เพื่อผลิตเป็นอาหาร จึงพบว่า อุตสาหกรรมอาหารว่างประเภทพะโล้ได้เริ่มกำเนิดเกิดขึ้น ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และกำลังอยู่ในช่วงของเติบโตได้อย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันยังพบว่ามีบริษัทอุตสาหกรรมอาหารว่างประเภทพะโล้ในจีนที่มีชื่อเสียง 5 อันดับแรก ได้แก่ บริษัท JUEWEI FOOD (绝味食品 เจ๋เว้ยสือพิ่น) บริษัท Zhou Hei Ya International Holdings Company Limited (周黑鸭 โจวเฮยยา) บริษัท ZIYANFOODS (紫燕百味鸡 จื๋อเยี่ยนป๋ายเว้ยจี) บริษัท HUSNGSHANGHUANG (煌上煌 หวงซ้างหวง) และบริษัท JIUJIUYA (久久丫 จิ๋วจิ่วยา) ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์พะโล้อีกจำนวนมาก จึงทำให้บริษัททั้ง 5 รายนี้ ครองส่วนแบ่งตลาดรวมกันเพียงร้อยละ 20 หรือคิดเป็น 1 ใน 5 ของส่วนแบ่งตลาดทั้งหมด

 

เมื่อพิจารณาผลิตภัณฑ์หลักหรือผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงของแต่ละบริษัท พบว่า ผลิตภัณฑ์หลักของ บริษัท 4 แห่ง ได้แก่ บริษัท Zhou Hei Ya (โจวเฮยยา) บริษัท JUEWEI FOOD (เจ๋เว้ยสือพิ่น) บริษัท HUANGSHANGHUANG (เจ๋เว้ยสือพิ่น) และบริษัท JIUJIUYA (จิ๋วจิ่วยา) เป็นผลิตภัณฑ์จำพวกเป็ด ขณะที่ บริษัท ZIYANFOODS (จื๋อเยี่ยนป๋ายเว้ยจี) มีผลิตภัณฑ์หลักเป็นอาหารจำพวกไก่ โดยในตลาดจีนยังคงพบว่ามี แบรนด์ดังที่มีผลิตภัณฑ์เป็นไก่น้อยมาก ซึ่งอาจมีสาเหตุหลักมาจากการที่มีเจ้าของตลาดหลักอย่าง KFC ซึ่งได้รับ ความนิยมจากผู้บริโภคส่วนใหญ่ จนสามารถครองใจผู้บริโภคชาวจีนมาเป็นระยะเวลายาวนาน

 

ธุรกิจ“ตีนไก่”หมื่นล้านหยวนในจีน โอกาสทองส่งออกไทย

 

อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณายอดขายของเมนูอาหารประเภทไก่ที่มีชื่อเสียงของจีน โดยเฉพาะ บริษัทเต๋อโจวผาจีบริษัทผู้ผลิตอาหารว่างประเภทไก่ของจีนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 300 ปี พบว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ เมนูเต๋อโจวผาจี (德州扒鸡) เมนูไก่ทั้งตัวซึ่งถือเป็นเมนูขึ้นชื่อของมณฑลซานตงมียอด จำหน่ายจากเดิมในอดีตที่ขายได้ประมาณ 50 ล้านหยวน หรือประมาณ 225 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 540 ล้าน หยวน หรือประมาณ 2,430 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดจำหน่ายที่ไม่รวมภาษี ทำให้เบ็ดเสร็จบริษัทมีกำไรแล้วทั้งสิ้น ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านหยวน หรือประมาณ 450 ล้านบาท

 

ธุรกิจ“ตีนไก่”หมื่นล้านหยวนในจีน โอกาสทองส่งออกไทย

 

ขณะที่แบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารว่างประเภทไก่น้องใหม่ อย่างหวางเสียวหลู่ (王小卤) ก็ได้ออกผลิตภัณฑ์อาหารว่างตีนไก่ที่ชื่อว่า “หู่ผีจีจว๋า” (虎皮鸡爪) ซึ่งกำลัง ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในขณะนี้ และกำลังกลายเป็นแบรนด์ที่เติบโตเร็วที่สุดของอาหารว่างประเภทไก่ ในช่วง  3 ปีที่ผ่านมา

 

นอกจากนี้ ในปี 2019 ยังพบว่าขนาดของตลาดค้าปลีกอุตสาหกรรมพะโล้จีนมีมูลค่าสูงถึง 110,000 ล้านหยวน หรือประมาณ 495,000 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 (YoY) และคาดการณ์ว่าใน ปี 2020 จะมีมูลค่าถึง 123,500 ล้านหยวน หรือประมาณ 555,750 ล้านบาท โดยผู้บริโภคหลักในปัจจุบันเป็น กลุ่มผู้บริโภคหนุ่มสาวยุคใหม่ ที่นิยมรับประทานตีนไก่ คอเป็ด และลิ้นเป็ดเป็นอย่างมาก

 

การขยายตัวของความต้องการบริโภคตีนไก่ในตลาดจีน ทำให้ผู้ผลิตอาหารประเภทตีนไก่หลาย แบรนด์ประสบความสำเร็จในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะแบรนด์หวางเสียวหลู่ (王小卤) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตีนไก่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยเฉลี่ยในระยะเวลาเพียง 1 ปีแบรนด์นี้มียอด ขายตีนไก่ถึง 40 ล้านห่อซึ่งที่ผ่านมาบริษัทหวางเสียวหลู่เริ่มต้น ด้วยการขายขาหมู โดยเริ่มต้นขึ้นในปี 2016 เริ่มจำหน่ายขาหมูบน WeChat Moment และวันแรกขายได้ถึง  30,000 หยวน หรือประมาณ 135,000 บาท

 

แต่อย่างไรก็ตาม การขายขาหมูให้ผลตอบแทนและมีกำไรต่ำ ประกอบกับมีโอกาสที่ผู้บริโภคจะซื้อซ้ำเป็นจำนวนน้อย ทำให้2 ปีผ่านไป บริษัทขาดทุนกว่า 2 ล้านหยวน หรือประมาณ 9 ล้านบาท จนกระทั่งในปี 2018 บริษัทเริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารว่างที่สุกแล้ว ประเภทขาหมู ตีนไก่ และคอไก่ ซึ่งในบรรดาผลิตภัณฑ์ใหม่เหล่านี้ตีนไก่ได้รับความนิยมและมีกระแสตอบรับดีที่สุด จนทำให้ ในเดือนเมษายน 2019 แบรนด์หวางเสียวหลู่สามารถเปิดร้าน Flagship store จำหน่ายอาหารว่างประเภทตีน ไก่สำเร็จรูปพร้อมรับประทานบนแพลตฟอร์ม Tmall ได้สำเร็จ และหลังจากเปิดร้านบนแพลตฟอร์ม Tmall ก็ทำให้บริษัทมียอดจำหน่ายตีนไก่สูงถึง 1 ล้านหยวน หรือประมาณ 4.5 ล้านบาท และมีอัตราการซื้อซ้ำเกือบ ร้อยละ 30

 

 นอกจากนี้ ในช่วงเทศกาลลดราคา 618 หรือวันที่ 18 เดือนมิถุนายนปี 2020  บริษัทฯ ยังมียอด จำหน่ายตีนไก่สูงถึง 10 ล้านหยวน หรือประมาณ 45 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3,000 จนทำให้ตีนไก่ กลายเป็นผลิตภัณฑ์อาหารว่างประเภทเนื้อไก่ที่มียอดขายเป็นอันดับหนึ่ง และในช่วงเทศกาลลดราคา 11.11 เมื่อวันที่ 11 เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา บริษัทฯ มียอดขายทะลุ 20 ล้านหยวนหรือประมาณ 90 ล้านบาท เพียงระยะเวลาสั้นๆ 4 ปี ซึ่งปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญ คือ ผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพ และความหลากหลายของ ผลิตภัณฑ์ ประกอบกับตลาดยังคงมีช่องว่างในการแข่งขันสูง ผู้บริโภคยังมีความนิยมและมีแนวโน้มที่จะบริโภค เพิ่มขึ้น และที่สำคัญคือ การร่วมมือกับ KOL ในการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ที่สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทั่วถึง และรวดเร็วยิ่งขึ้น ขณะที่การเปลี่ยนแปลงช่องทางในการซื้อขายสินค้าต่าง ๆ อัตราการเข้าถึงแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ที่ขยายตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ยิ่งทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ อาหารว่างจากไก่ชนิดใหม่มากขึ้น และได้รับความนิยมจากผู้บริโภครุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น จึงอาจถือได้ว่า ตลาดอาหารว่างผลิตภัณฑ์จากไก่ยังคงเป็นสินค้าที่มีโอกาสเติบโตและขยายตัวในตลาดจีนได้อีกยาวนาน

 

ธุรกิจ“ตีนไก่”หมื่นล้านหยวนในจีน โอกาสทองส่งออกไทย

 

สคต. ณ เมืองชิงต่าว ให้ความเห็นว่า ชาวจีนนิยมบริโภคตีนไก่มาอย่างยาวนาน และมีการบริโภคต่อปีเป็นจำนวนมหาศาล หรืออาจ กล่าวได้ว่าตีนไก่กว่าร้อยละ 80 จากทั่วโลกถูกบริโภคโดยชาวจีน ซึ่งกลุ่มผู้บริโภคหลักก็คือผู้บริโภคหนุ่มสาวยุคใหม่ ที่มีอายุระหว่าง 25 – 30 ปี โดยปัจจุบันจีนสามารถผลิตเนื้อสัตว์ปีกได้ถึงปีละหลายสิบล้านตัน แต่ปริมาณดังกล่าวก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค จึงต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศเป็น จำนวนมากโดยเฉพาะปีกไก่และตีนไก่ ข้อมูลล่าสุดตั้งแต่เดือนมกราคม – ตุลาคม 2563 พบว่า จีนนำเข้า ตีนไก่จากทั่วโลก จำนวน 419,565 ตัน คิดเป็นมูลค่า 1.07 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีการนำเข้าจากประเทศไทย จำนวน 32,783 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 122.85 (YoY) คิดเป็นมูลค่า 101.90 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 100.59

 

จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นได้ว่า ธุรกิจอาหารว่างจากตีนไก่จึงเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่มีโอกาสในการ เติบโตในตลาดจีน และเป็นธุรกิจที่ผู้ประกอบการไทยไม่ควรมองข้าม เนื่องจากมีโอกาสส่งออกเข้าสู่ตลาดจีนได้ มากกว่าการส่งออกผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ไก่โดยเฉพาะที่จะต้องมีขั้นตอนในการขออนุญาตและตรวจสอบโรงงาน ผลิตตามหลักเกณฑ์มาตรฐานของรัฐบาลจีน แต่อย่างไรก็ตามสำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปและ อาหารว่างจากเนื้อสัตว์ปีกเข้าสู่ตลาดจีน ผู้ประกอบการไทยก็ยังคงต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในการควบคุม มาตรฐานการผลิตอาหาร เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคชาวจีน และสร้างความเชื่อมั่นต่อการ บริโภคผลิตภัณฑ์อาหารไทย นอกจากนี้ ยังควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่มีความทันสมัย มีความ โดดเด่น และสะดุดตา อีกทั้งยังต้องสะดวกต่อการรับประทานและพกพา เนื่องจากผู้บริโภคหลักของผลิตภัณฑ์ เหล่านี้คือ ผู้บริโภคหนุ่มสาวชาวจีนยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญต่อความสะดวกสบาย และบรรจุภัณฑ์ที่สามารถ เปิดรับประทานได้ง่าย มีความทันสมัย และมีขนาดเล็กพกพาสะดวกเป็นสำคัญ