รัฐบาลมาเลเซีย สู้ศึก การแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ หลัง ประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศ 14 วัน ปิดห้างร้าน รณรงค์ให้ประชาชนอยู่บ้านหรือทำงานจากบ้าน ล่าสุด ยังไฟเขียวแผนกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ รอบใหม่มูลค่า 40,000 ล้านริงกิต หรือ 9,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เพื่อเป็นการลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อรายวันของมาเลเซียพุ่งทำลายสถิติ รัฐบาลมาเลเซียประกาศมาตรการล็อกดาวน์ครั้งใหม่อย่างเข้มงวดโดยขอความร่วมมือประชาชนไม่ออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น ให้ทำงานจากบ้าน และปิดชั่วคราวห้างร้านต่าง ๆ นอกจากนี้ เพื่อบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น มาเลเซียได้ประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่มูลค่า 40,000 ล้านริงกิต (หรือ 9,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) พร้อมโครงการช่วยเหลือทางการเงินสำหรับครัวเรือนที่รายได้น้อย คนขับรถแท็กซี่และคนขับรถประจำทาง ซึ่งทำให้งบกระตุ้นเศรษฐกิจของมาเลเซียนับตั้งแต่ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ครั้งแรกเมื่อต้นปีที่แล้ว มีจำนวนรวมทั้งสิ้นถึง 380,000 ล้านริงกิต
ทั้งนี้ เศรษฐกิจของมาเลเซีย ติดลบ 5.6% ในปี 2563 และมีการเติบโตเพียง 0.5% ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้(2564)
เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายเต็งกู ซาฟรูล อับดุล อาซิซ รมว.คลังมาเลเซีย ให้สัมภาษณ์สื่อว่า มาเลเซียจะทบทวนตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวเศรษฐกิจ รวมถึงยอดขาดดุลงบประมาณอีกครั้ง หลังจากที่ รัฐบาลประกาศล็อกดาวน์เต็มรูปแบบเป็นเวลา 2 สัปดาห์ (มีผลตั้งแต่วันที่ 1-14 มิ.ย.) เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่นี้ “รัฐบาลอาจต้องกู้ยืมเงินเพิ่มเติมเพื่อนำมาสนับสนุนแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่นี้ (วงเงิน 40,000 ล้านริงกิต) เป็นการบรรเทาผลกระทบจากการประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศ ส่วนตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจใหม่จะมีการประกาศในเร็วๆ นี้” รมว.คลังมาเลเซียระบุ
เศรษฐกิจมาเลเซียในไตรมาส 1/2564 ยังคงหดตัวลงต่อเนื่องติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 4 โดยรัฐบาลและธนาคารกลางมาเลเซียคาดการณ์ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จะขยายตัวที่ราว 6%-7.5% ในปี2564 หลังจากที่หดตัวลง 5.6% ในปีที่ผ่านมา ขณะที่ตัวเลขคาดการณ์ยอดขาดดุลงบประมาณอยู่ที่ 6%
ทั้งนี้ รัฐบาลจะต้องใช้เวลา 2-3 วันในการตรวจสอบค่าใช้จ่ายรายวันที่เป็นผลพวงจากมาตรการล็อกดาวน์ โดยนายซาฟรูล รมว.คลัง ระบุว่า จากประสบการณ์การล็อกดาวน์ในลักษณะที่คล้ายคลึงกันในปี 2563 ครั้งนั้นประเทศได้รับความเสียหายประมาณ 63,000 ล้านริงกิต
อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์เยียห์ คิมเล็ง นักเศรษฐศาสตร์จากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยซันเวย์(Sunway University) ของมาเลเซีย ให้ความเห็นว่า รัฐบาลมาเลเซียจัดงบกระตุ้นเศรษฐกิจรอบนี้ “น้อยเกินไป” ยากที่จะทำให้การกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง “รัฐบาลควรอัดฉีดงบประมาณมากกว่านี้เพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวเร็วขึ้นในระยะยาว”
ด้าน ศ.โมฮัมหมัด นาซารี อิสมาอิล จากภาควิชายุทธศาสตร์และนโยบายธุรกิจ มหาวิทยาลัยมาลายาของมาเลเซีย ตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลมาเลเซีย มีทางเลือกน้อยมากในการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากปัญหาหนี้สาธารณะที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต “การจัดงบประมาณให้มากเท่าใด ก็ไม่เพียงพอ เนื่องจากวิกฤตการระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน กำลังส่งผลเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของมาเลเซียอย่างรุนแรง”
กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย รายงานเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า มาเลเซียมียอดผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้น 7,105 ราย(ในรอบ 24 ชั่วโมง) ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 579,462 ราย ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มขึ้น 71 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นแตะ 2,867 ราย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง