ที่ประชุม คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อวานนี้ (28 ก.ค.) มีมติเอกฉันท์ คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ที่ระดับ 0.00-0.25% เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ เฟดระบุว่า จะยังคงซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) อย่างน้อย 120,000 ล้านดอลลาร์/เดือน โดยเฟดจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 80,000 ล้านดอลลาร์/เดือน และซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ในวงเงิน 40,000 ล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน เฟดยอมรับว่า แม้เศรษฐกิจมีความคืบหน้าไปยังเป้าหมายที่จะทำให้เฟดเริ่มปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE โดยการจ้างงานมีความแข็งแกร่งขึ้น แต่เฟดก็ยังคงต้องการเวลามากขึ้นในการประเมินความคืบหน้าดังกล่าวในการประชุมครั้งต่อๆไป
เฟดเตือนว่า แนวโน้มเศรษฐกิจยังคงเผชิญความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งเฟดจะใช้เครื่องมือทุกอย่างในการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเพื่อให้มีการจ้างงานเต็มศักยภาพ และรักษาเสถียรภาพของราคา
ทั้งนี้ ปัจจุบัน สหรัฐยังคงเป็นประเทศที่ติดอันดับ 1 ของโลกทั้งในแง่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าว โดยข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 29 ก.ค. สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมจำนวน 35,355,430 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 627,370 ราย โดย
นอกจากนี้ รัฐแคลิฟอร์เนียเป็นรัฐที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดในสหรัฐ จำนวน 64,302 ราย