สื่อสปป.ลาว นำเสนอ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ 7 คนไทยหาเห็ด ลุกล้ำเขตแดน อยู่ในขั้นเจรจาส่งกลับไม่มีการพูดถึงการรับวัคซีนตามที่เป็นข่าวไวรัลในสื่อโซเชียลมีเดีย รวมทั้งสื่อกระแสหลักของไทย นอกจากต้องถูกจับกักตัว 14 วันตามกฎเกณฑ์ควบคุมโควิดของลาวแล้ว การบิดเบือนข่าวเรื่องวัคซีนอาจเป็นผลเสีย ทำให้ถูกปล่อยตัวกลับช้ากว่าที่ควร
สำนักข่าวสารปะเทดลาวซึ่งเป็นสื่อของทางการสปป.ลาว รายงานข่าววานนี้ (3 ส.ค.) อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก กรณีคนไทย 7 คนถูกทหารลาวจับกุมบริเวณชายแดนลาว-ไทย อ้างอิงข้อมูลของกองบัญชาการทหารแขวงจำปาสัก แจ้งให้ทราบว่า วันที่ 1 ส.ค.2564 กำลังทหารกอง ค.522 ได้กักตัวคนไทย 7 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 5 คน ทั้งหมดสัญชาติไทย อาชีพชาวนา อยู่บ้านสุขเกษม อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี
เจ้าหน้าที่ทหารกอง ค.552 รายงานว่า เช้าวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้ลาดตระเวนตามแนวชายแดน พบคนไทยทั้ง 7 คน ที่ข้ามแดนมาเก็บเห็ดทางช่องทางธรรมชาติ ช่องหมากที (บ้านป้อง เมืองโพนทอง ตรงข้ามบ้านนาวังลม อ.สิรินธร) ทหารลาวจึงได้นำตัวคนไทย 7 คน มาสอบสวนที่กอง ค.522 ที่บ้านวังเต่า เมืองโพนทอง จากนั้น นำตัวพวกเขาทั้งหมดไปมอบให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ประจำด่านสากลวังเต่า พร้อมโทรศัพท์ 6 เครื่อง
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสปป.ลาว ได้ทำการเก็บตัวอย่างหาเชื้อโควิด-19 แล้วส่งคนไทยทั้ง 7 คน ไปอยู่ศูนย์กักกัน หลัก 21 เมืองปะทุมพอน แขวงจำปาสัก เพื่อจำกัดบริเวณ 14 วัน ก่อนจะนำตัวมาส่งที่ด่าน ตม.วังเต่า เพื่อผลักดันกลับประเทศไทยต่อไป
ข้อน่าสังเกตคือ สำนักข่าวสารปะเทดลาว มิได้พูดถึงเรื่องทางการลาวจะฉีดวัคซีนให้คนไทยหลังถูกกักตัวครบ 14 วันก่อนผลักดันกลับประเทศไทยแต่อย่างใด
สอดคล้องกับการรายงานข่าวของ เว็บไซต์ เวียงจันทน์ ไทม์ส (Vientiane Times) สื่อภาษาอังกฤษรายวันของลาวที่รายงานวันนี้ (4 ส.ค.) อ้างอิงการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่หน่วยงานป้องกันและควบคุมโรคของแขวงจำปาสัก ระบุว่า คนไทยทั้ง 7 คนเข้ามาในดินแดนประเทศลาวโดยผิดกฎหมาย และพวกเขาก็ไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 จากรัฐบาลลาวแต่อย่างใด ซึ่งแตกต่างไปจากสิ่งที่สื่อของไทยรายงานกันในช่วงเช้าวานนี้ (3 ส.ค.)
เจ้าหน้าที่แขวงจำปาสักระบุว่า มีรายข่าวในสื่อโซเชียลมีเดียรวมทั้งสื่อกระแสหลักบางสำนักของไทยเกี่ยวกับเรื่องราวของบุคคลทั้ง 7 ซึ่งเป็นชาวอุบลราชธานีและเข้ามาหาอาหารในชายป่าใกล้ชายแดนลาว พวกเขาหลงทางและเข้าสู่ดินแดนประเทศลาวโดยผิดกฎหมายเมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2564 เนื้อหาในส่วนนี้ ทางแขวงจำปาสักยืนยันว่าเป็นความจริง
ทั้ง 7 คนถูกกักตัวตามแนวทางควบคุมและป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ของรัฐบาลลาว และจากนั้นก็ต้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายของลาว ก่อนที่จะถูกส่งกลับประเทศไทยตามสนธิสัญญาที่มีระหว่างกัน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่แขวงจำปาสักย้ำว่า ข้อมูลบางส่วนในสื่อโซเชียลมีเดียและบางสื่อกระแสหลักของไทยนั้น “ไม่เป็นความจริง” นั่นคือเรื่องที่ว่า ทั้ง 7 คนที่ถูกจับกุมจะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดให้ก่อนกลับประเทศไทย
เกี่ยวกับการนำเสนอข่าวที่บิดเบือนและมีการนำไปล้อกันเล่นอย่างแพร่หลายในสื่อต่าง ๆของไทยนั้น นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้ความเห็นว่า ประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน “ ต้องขอร้องว่าไม่ควรเห็นเป็นเรื่องสนุก ทางการลาวถึงขั้นต้องเอาเรื่องเข้าพิจารณาในระดับแขวงซึ่งเขาไม่ตลกกับเราด้วย เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ประเทศลาวก็ยังฉีดวัคซีนกันไม่ครบเลย ซึ่งพอมีข่าวแบบนี้ออกไป จะส่งผลให้คนที่ไทยที่ถูกควบคุมตัวอยู่ได้กลับช้าไปอีก ยอมรับว่า ข่าวการฉีดวัคซีนให้คนไทยเริ่มมีกระทบมากขึ้น” ผู้ว่าฯ อุบลราชธานีระบุ (อ่านเพิ่มเติม: สปป.ลาวไม่ขำด้วย ยืนยันไม่มีการ "ฉีดวัคซีนโควิด" ให้ 7คนไทยลอบข้ามแดน)