ฮ่องกงระทึก สั่งแบงก์ยื่นรายงานการปล่อยกู้เอเวอร์แกรนด์ ส่อเบี้ยวหนี้อีก

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างอิงแหล่งข่าววานนี้ (28 ก.ย.) ว่า ธนาคารกลางฮ่องกงได้สั่งการให้ธนาคารต่าง ๆ ยื่นรายงานเกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้ให้กับบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป เนื่องจากมีความกังวลว่าความเสี่ยงที่ไชน่า เอเวอร์แกรนด์จะผิดนัดชำระหนี้นั้น อาจส่งผลกระทบต่อระบบการเงินของฮ่องกง

รายงานข่าวระบุว่า ธนาคารกลางฮ่องกงได้สอบถามบรรดาธนาคารพาณิชย์ในฮ่องกงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และให้เวลา 24 ชั่วโมงในการยื่นรายงานเกี่ยวกับการปล่อยกู้ให้กับไชน่า เอเวอร์แกรนด์ ทั้งในด้านการปล่อยสินเชื่อและอนุพันธ์ ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวครั้งที่สองในรอบหลายเดือนที่ผ่านมาที่ธนาคารกลางฮ่องกงหันมาจับตาว่ามีธนาคารกี่แห่งที่ปล่อยกู้ให้กับเอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป

ทั้งนี้ เอเวอร์แกรนด์ได้ผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ 2 งวดที่ครบกำหนดชำระเมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยเป็นการผิดนัดชำระดอกเบี้ยวงเงิน 232 ล้านหยวน หรือราว 35.88 ล้านดอลลาร์สำหรับหุ้นกู้สกุลเงินหยวนที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนก.ย. 2568 และดอกเบี้ยวงเงิน 83.5 ล้านดอลลาร์สำหรับหุ้นกู้สกุลดอลลาร์ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนมี.ค. 2565

อย่างไรก็ดี เอเวอร์แกรนด์ยังคงมีระยะเวลาผ่อนผันอีก 30 วันในการหาทางระดมทุน ก่อนที่จะถูกประกาศอย่างเป็นทางการว่าบริษัทผิดนัดชำระหนี้

จับตาวันนี้ผิดนัดชำระหนี้อีกรอบหรือไม่  

การเร่งรุดขยายธุรกิจทั้งด้านโครงการอสังหาริมทรัพย์และนอกภาคอสังหาฯ ด้วยการกู้เงินเกินตัวทำให้เอเวอร์แกรนด์มีหนี้สินมากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 10 ล้านล้านบาท เทียบเท่ากับ 2% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีน นอกจากนี้ เอเวอร์แกรนด์ ยังมีตราสารหนี้เชิงพาณิชย์มูลค่ารวม 2.057 แสนล้านหยวน (3.2 หมื่นล้านดอลลาร์) หรือราว 1 ล้านล้านบาท ณ สิ้นปี 2563

เอเวอร์แกรนด์มีกำหนดชำระดอกเบี้ยวงเงิน 47.5 ล้านดอลลาร์ในวันนี้ (29 ก.ย.) สำหรับหุ้นกู้สกุลดอลลาร์ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนมี.ค. 2567 และหลังจากนี้ บริษัทยังมีกำหนดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ทุกเดือนในช่วงที่เหลือของปีนี้ ซึ่งได้แก่ เดือนต.ค., พ.ย.และธ.ค.

อย่างไรก็ตาม เป็นที่คาดหมายกันว่า เอเวอร์แกรนด์จะผิดนัดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ในวันนี้อีกครั้ง หลังจากที่ได้ผิดนัดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ 2 งวดที่มีกำหนดชำระเมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยที่ผู้บริหารของเอเวอร์แกรนด์ยังคงเก็บตัวเงียบงดออกสื่อและไม่มีคำชี้แจงใด ๆ ต่อผู้ที่ถือหุ้นกู้ของบริษัท รวมทั้งคำชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์  

ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางจีนได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในมณฑลต่าง ๆ เตรียมรับมือผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการล้มละลายของเอเวอร์แกรนด์ ซึ่งคำเตือนดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลจีนไม่มีความประสงค์ที่จะเข้ากอบกู้กิจการของเอเวอร์แกรนด์ แต่จะเตรียมพร้อมรับมือผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อภาคเศรษฐกิจและสังคมของจีนและให้ความคุ้มครองสิทธิทางกฎหมายของผู้บริโภคจากผลกระทบในตลาดอสังหาริมทรัพย์ หากสุดท้ายแล้วเอเวอร์แกรนด์ต้องประสบกับภาวะล้มละลาย