สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ว่าสำนักพระราชวังอิมพีเรียลเผยแพร่แถลงการณ์เมื่อวันศุกร์(1 ต.ค.) มีเนื้อหาเพียงว่า เจ้าหญิงมาโกะแห่งอะกิชิโนะ พระชันษา 29 ปี พระธิดาพระองค์โตในเจ้าชายฟุมิฮิโตะ มกุฎราชกุมาร และเจ้าหญิงคิโกะ มกุฎราชกุมารี จะทรงเสกสมรสกับ นายเคอิ โคมุโระ พระสหายคนสนิทซึ่งมีอายุเท่ากัน ในวันที่ 26 ต.ค.นี้
สื่อท้องถิ่นของญี่ปุ่นมีรายงานว่า การอภิเสกสมรสระหว่างเจ้าหญิงมาโกะกับนายโคมุโระ ซึ่งมีการหมั้นหมายตั้งแต่ปี 2560 จะไม่มีพิธีอย่างเป็นทางการทั้งในระดับราชวงศ์ และตามขนบธรรมเนียมของญี่ปุ่น เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเนื่องจากกระแสคัดค้านความสัมพันธ์ของบุคคลทั้งสอง ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากภูมิหลังของฝ่ายชายที่เต็มไปด้วยข้อครหามากมาย ประเด็นดังกล่าวทำให้เจ้าหญิงมาโกะไม่สบายพระทัยอย่างหนัก
ทั้งนี้ สื่อรายงานว่า เจ้าหญิงมาโกะทรงยืนกรานไม่ขอรับเงินจากราชสำนัก ที่ตามธรรมเนียมจะมอบให้กับสมาชิกราชวงศ์หญิงที่เสกสมรสกับสามัญชน เพื่อให้นำไปใช้ตั้งต้นชีวิตใหม่
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า เจ้าหญิงมาโกะจะทรงได้รับเงิน 152.5 ล้านเยน หรือประมาณ 46.3 ล้านบาท ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นเพราะกระแสสังคมที่ยังคงเพ่งเล็งไปที่ฝ่ายชาย
ทั้งนี้ เจ้าหญิงมาโกะจะทรงเป็นสมาชิกในราชวงศ์ยามาโตะพระองค์ที่ 8 ที่ทรงยอมสละฐานันดรศักดิ์จากการเสกสมรส โดยเจ้าหญิงซายาโกะ พระราชธิดาในสมเด็จพระจักรพรรดิหลวงอากิฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีหลวงมิชิโกะ ทรงสละฐานันดรศักดิ์และเป็นสามัญชน หลังทรงเสกสมรสกับนายโยชิกิ คุโรดะ เมื่อปี 2548 หลังจากนั้น เจ้าหญิงซายาโกะทรงเปลี่ยนพระนามเป็นนางซายาโกะ คุโรดะ
หลังการเสกสมรส รายงานข่าวระบุว่า ทั้งเจ้าหญิงมาโกะและคู่สมรสจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งนายโคมุโระนั้นมีแนวโน้มสูงว่าจะได้ทำงานในบริษัทกฎหมายแห่งหนึ่งในนิวยอร์ก ที่ซึ่งเขาเดินทางไปศึกษาต่อตั้งแต่ปี 2561