เมอร์คยื่น FDA ขออนุมัติใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ รักษาโควิดในกรณีฉุกเฉินแล้ว

11 ต.ค. 2564 | 17:23 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ต.ค. 2564 | 00:30 น.

เมอร์ค แอนด์ โค เปิดเผยวานนี้ (11 ต.ค.) ว่า ได้ยื่นขออนุมัติใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ (molnupiravir) ซึ่งเป็นยาเม็ดสำหรับรักษาโรคโควิด-19 เป็นกรณีฉุกเฉินจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐแล้ว

เมอร์ค ซึ่งเป็นบริษัทยารายใหญ่ของสหรัฐ ระบุว่า หากได้รับอนุมัติ “ยาโมลนูพิราเวียร์”  ซึ่งเมอร์คพัฒนาขึ้นร่วมกับ บริษัท ริดจ์แบ็ค ไบโอเทราพิวติกส์ นั้น จะเป็น ยาชนิดรับประทานตัวแรกที่ใช้ต้านไวรัสโควิด-19

 

ข้อมูลที่เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วบ่งชี้ว่า ยาโมลนูพิราเวียร์นั้น สามารถลดโอกาสของการเสียชีวิตหรือการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลลงได้ครึ่งหนึ่งสำหรับผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ที่รุนแรง

 

สำหรับยารักษาโรคโควิด-19 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งได้แก่ ยาเรมเดซิเวียร์ (Remdesivir) และยาเดกซาเมทาโซน (Dexamethasone) นั้น เป็นยาที่จะใช้กับผู้ป่วยเมื่อเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลแล้วเท่านั้น

 เมอร์คยื่น FDA ขออนุมัติใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ รักษาโควิดในกรณีฉุกเฉินแล้ว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การยื่นขอของเมอร์คมีขึ้นหลังจากข้อมูลการทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2564 แสดงให้เห็นว่ายาโมลนูพิราเวียร์ ช่วยลดโอกาสที่ผู้ป่วยโควิดจะเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลประมาณ 50%

 

ทั้งนี้ หากได้รับการอนุมัติจาก FDA ยาโมลนูพิราเวียร์จะเป็นยาเม็ดชนิดแรกในการรักษาโควิด ซึ่งเป็นความก้าวหน้าที่อาจพลิกเกมในการต่อสู้กับไวรัส ซึ่งคร่าชีวิตชาวอเมริกันไปแล้วกว่า 1,600 คนต่อวันโดยเฉลี่ย

 

นายโรเบิร์ต เดวิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเมอร์ค เปิดเผยว่า ผลกระทบจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ผลักดันให้บริษัทเคลื่อนไหวด้วยความเร่งด่วนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และนั่นคือสิ่งที่ทีมงานของบริษัทได้ทำโดยการส่งเอกสารเกี่ยวกับยาโมลนูพิราเวียร์ไปยัง FDA ภายใน 10 วันหลังจากได้รับข้อมูล นอกจากนี้ บริษัทกำลังทำงานอย่างแข็งขันกับหน่วยงานกำกับดูแลด้านยาทั่วโลกเพื่อยื่นคำขอใช้ยาดังกล่าวในกรณีฉุกเฉินในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

 

ทั้งนี้ เมอร์คได้ตกลงเมื่อต้นปีนี้ในการจัดหายาโมลนูพิราเวียร์ประมาณ 1.7 ล้านชุดให้กับสหรัฐอเมริกา หากได้รับการอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินหรือได้รับการอนุมัติอย่างเต็มรูปแบบจาก FDA ตามรายงานของเดอะนิวยอร์กไทมส์ การรักษาด้วยยาโมลนูพิราเวียร์เป็นเวลา 5 วันจะทำให้รัฐบาลกลางเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 700 ดอลลาร์ต่อผู้ป่วย 1 ราย ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของต้นทุนปัจจุบันในการรักษาด้วยยาโมโนโคลนัลแอนติบอดี

 

ในขณะที่การฉีดวัคซีนยังคงเป็นรูปแบบการป้องกันไวรัสที่ดีที่สุด เจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพของสหรัฐ หวังว่ายาเม็ดของเมอร์คจะช่วยป้องกันไม่ให้โรคลุกลามในผู้ที่ติดเชื้อและช่วยให้พวกเขาไม่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล