อินโดฯ ประกาศตัวขอเป็นฮับส่งออก “ยานยนต์ไฟฟ้า” แห่งอาเซียน

27 ต.ค. 2564 | 23:09 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ต.ค. 2564 | 06:23 น.

อินโดนีเซียประกาศความพร้อม เป็นศูนย์กลางการส่งออก ‘ยานยนต์ไฟฟ้า’ แห่งอาเซียน ตั้งเป้าผลิตรถยนต์-รถบัส 1,000 คันในปีหน้า หลังจับมือกับ “ฮุนได” ตั้งโรงงานผลิตในเขตอุตสาหกรรมใหญ่ใกล้กรุงจาการ์ตา ขณะที่โรงงานแบตเตอรี 3.6 หมื่นล้านจะเริ่มการผลิตปีหน้าเช่นกัน

นายกูมีแวง คาร์ตาซาสมิตา รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า อินโดนีเซีย พร้อมแล้วที่จะก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการส่งออกยานยนต์ไฟฟ้า ใน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยตั้งเป้าหมายระยะแรกผลิตรถยนต์และรถประจำทาง จำนวน 1,000 คัน ในปีหน้า (2565)

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระบวนการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าจะเริ่มขึ้นในเดือนมีนาคมปี 2565 ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท พีที ฮุนได แมนูแฟกเจอริง อินโดนีเซีย (HMMI) ของเกาหลีใต้ ซึ่งมีโรงงานที่อยู่ระหว่างก่อสร้างในเขตอุตสาหกรรมชีการัง (Cikarang) ทางตะวันออกของกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของประเทศ

 

“การผลิตยานยนต์ไฟฟ้าแสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมของเรากำลังก้าวไปสู่อุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกเหนือจากการประกาศให้ประชาคมระหว่างประเทศรับทราบว่า อินโดนีเซียพร้อมแล้วที่จะเป็นศูนย์กลางการส่งออกยานยนต์ไฟฟ้าในอาเซียน และพื้นที่โดยรอบในภูมิภาค” คาร์ตาซาสมิตากล่าว

ปธน.โจโค วิโดโด มีเป้าหมายพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าควบคู่นโยบายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

อินโดนีเซียตั้งเป้าหมายผลิตรถยนต์และรถประจำทางพลังงานไฟฟ้ารวม 600,000 คัน ภายในปี 2030 (พ.ศ. 2573) โดยคาดว่าจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สูงถึง 2.7 ล้านตัน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 29 ภายในปีเดียวกัน

 

ทั้งนี้ โรงงานอุตสาหกรรมแบตเตอรียานยนต์ไฟฟ้า เริ่มต้นก่อสร้างในเขตอุตสาหกรรมชีการังของจังหวัดชวาตะวันตก เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ด้วยเงินลงทุนรวม 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.6 หมื่นล้านบาท) ภายใต้ความร่วมมือระหว่างอินโดนีเซียและเกาหลีใต้ โดยมีกำหนดเริ่มดำเนินการในปีหน้า (2565) เช่นกัน

อินโดฯจับมือกับ "ฮุนได" พัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า