นายมาร์ค รัตต์ (Mark Rutte) นายกรัฐมนตรี เนเธอร์แลนด์ ประกาศ ล็อกดาวน์ประเทศเต็มรูปแบบ ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันอาทิตย์ (19 ธ.ค.) เป็นการยกระดับจากครั้งก่อนเมื่อวันที่ 14 พ.ย. ที่เป็นการล็อกดาวน์เฉพาะบางพื้นที่ รวมทั้งบุคคลที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน
ทั้งนี้ ร้านค้าที่ไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน รวมทั้งบาร์ ไนท์คลับ ร้านทำผม สถานออกกำลังกาย และสถานที่สาธารณะอื่นๆ จะถูกปิดยาวต่อเนื่องถึงกลางเดือนมกราคมปีหน้า (2565)
นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ย้ำว่า การล็อกดาวน์ทั้งประเทศเป็นมาตรการที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้แล้วในเวลานี้ ขณะเดียวกันหลายประเทศทั่วยุโรปมีการกำหนดข้อจำกัดที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบางประเทศประกาศล็อกดาวน์ครั้งใหม่ อาทิ ออสเตรีย สาเหตุเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิดกลายพันธุ์ “โอมิครอน” ที่ติดต่อได้ง่ายขึ้น แพร่ระบาดไวขึ้น
ภายใต้การล็อกดาวน์ครั้งใหม่นี้ รัฐบาลเนเธอร์แลนด์กระตุ้นให้ประชาชนอยู่กับบ้านให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นอกจากนี้ ยังจำกัดจำนวนคนที่สามารถพบปะ(รวมกลุ่ม)อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เทศกาลคริสต์มาสและการสังสรรค์ญาติมิตรกำลังใกล้เข้ามา ทางการอนุญาตให้แขกเยือนอายุ 13 ปีขึ้นไปเข้าพักในบ้านได้สูงสุด 2 คน และเพิ่มให้เป็น 4 คนในวันที่ 24-26 ธ.ค. รวมทั้งในคืนวันส่งท้ายปีเก่าขึ้นปีใหม่
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ไม่อนุญาตให้จัดงานชุมนุมหรืองานรวมคนอื่นใดนอกจากงานศพ ตลาดนัดรายสัปดาห์ที่ขายของชำ และการแข่งขันกีฬาอาชีพที่ไม่มีผู้เข้าชมในสนาม
นอกจากนี้ โรงเรียนทุกแห่งจะปิดจนถึงวันที่ 9 ม.ค. 2565 เป็นอย่างน้อย ในขณะที่มาตรการล็อกดาวน์อื่นๆ จะยังคงบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 14 ม.ค. เป็นอย่างน้อย ส่วนร้านอาหารสามารถขายอาหารแบบสั่งกลับบ้านได้ต่อไป และร้านค้าที่ไม่จำเป็นสามารถเสนอบริการสั่งซื้อออนไลน์ได้เช่นกัน
"ตอนนี้ผมได้ยินเสียงถอนหายใจของชาวเนเธอร์แลนด์ทั้งประเทศ นี่เป็นหนึ่งสัปดาห์ก่อนวันคริสต์มาส และเป็นอีกคริสต์มาสที่จะแตกต่างไปจากที่เราต้องการโดยสิ้นเชิง" นายมาร์ค รัตต์ นายกรัฐมนตรีกล่าว แต่ก็ย้ำถึงความจำเป็นที่ต้องนำมาตรการล็อกดาวน์ทั้งประเทศมาใช้ เพราะความล้มเหลวในการดำเนินการในตอนนี้ อาจนำไปสู่ "สถานการณ์ที่ไม่สามารถจัดการได้ในโรงพยาบาล"
ข่าวการเตรียมล็อกดาวน์ระลอกใหม่ ทำให้เมื่อวันเสาร์ (18 ธ.ค.) ผู้คนต่างเร่งรีบไปซื้อของในช่วงคริสต์มาสไว้ล่วงหน้า
สถาบันสาธารณสุขแห่งชาติของเนเธอร์แลนด์รายงานว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 มากกว่า 2.9 ล้านรายนับตั้งแต่เกิดการระบาดใหญ่เป็นครั้งแรก และขจนถึงขณะนี้ มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 แล้วกว่า 20,000 รายทั่วประเทศ
แม้ปัจจุบันโควิดสายพันธุ์โอมิครอนจะยังไม่ใช่สายพันธุ์หลักของการแพร่ระบาดในเนเธอร์แลนด์ แต่ก็มีแนวโน้มว่ากำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
นายยาป ฟาน ดิสเซล (Jaap van Dissel) หัวหน้าทีมจัดการการระบาดของเนเธอร์แลนด์ กล่าวว่า การล็อกดาวน์ครั้งใหม่นี้เป็นเพียงการ "ซื้อเวลา" เพื่อช่วยให้คนสามารถไปรับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นได้มากยิ่งขึ้น และเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับระบบสาธารณสุขเพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มมากขึ้น
ข่าวระบุว่า ประชาชนมากกว่า 85% ของกลุ่มวัยผู้ใหญ่ในเนเธอร์แลนด์ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ ยังมีจำนวนน้อยกว่า 9% ที่ได้รับการฉีดวัคซีนกระตุ้น(วัคซีนบูสเตอร์ หรือวัคซีนเข็มสาม) ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขเนเธอร์แลนด์จึงเชิญชวนให้ประชาชนวัยผู้ใหญ่ไปเข้ารับการฉีดวัคซีนบูสเตอร์ภายในวันที่ 7 ม.ค.2565