“เลิกใส่ร้ายป้ายสีซะที” จาก CEO เชฟรอนถึง “โจ ไบเดน”

22 มิ.ย. 2565 | 07:42 น.
อัปเดตล่าสุด :22 มิ.ย. 2565 | 14:56 น.

วิวาทะว่าด้วยเรื่องน้ำมันแพง ระหว่างนายไมเคิล เวิร์ธ CEO บริษัทน้ำมันเชฟรอน และปธน.โจ ไบเดน กลายเป็นประเด็นร้อนก่อนที่ผู้นำสหรัฐจะเสนอต่อสภาคองเกรสขอไฟเขียวการระงับเก็บภาษีน้ำมันเบนซินชั่วคราววันนี้ และก่อนการประชุมร่วมรัฐบาล-โรงกลั่น-บริษัทน้ำมัน 23 มิ.ย.นี้  

นายไมเคิล เวิร์ธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเชฟรอน ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของสหรัฐ วอน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน หยุดโบ้ยให้ อุตสาหกรรมพลังงาน เป็น “ตัวการ” ที่ทำให้ น้ำมันแพง-เงินเฟ้อพุ่ง โดยเขาออกโรงตอบโต้วันนี้ (22 มิ.ย.) ว่า รัฐบาลควรหยุดวิพากษ์วิจารณ์อุตสาหกรรมพลังงานว่าเป็นต้นเหตุทำให้ต้นทุนเชื้อเพลิงขยับสูงขึ้น เขายังแนะด้วยว่า รัฐบาลของนายไบเดนต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ หากต้องการให้ราคาเชื้อเพลิงปรับลดลงมา

 

ถ้อยแถลงของนายเวิร์ธเป็นการตอบโต้อันเผ็ดร้อนครั้งล่าสุดระหว่างอุตสาหกรรมน้ำมันสหรัฐ และประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพื่อหาตัวคนผิดที่ทำให้ราคาเชื้อเพลิงพุ่งสูงจนเงินเฟ้อสหรัฐทะยานสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 40 ปี โดยก่อนหน้านี้ ผู้นำสหรัฐกล่าวกระทบกระเทียบว่า บริษัทน้ำมันบางราย (ไบเดนเอ่ยชื่อบริษัทเอ็กซอน) นั้นร่ำรวยยิ่งกว่าพระเจ้าเสียอีก

 

"คณะบริหารของคุณพยายามเหลือเกินที่จะวิพากษ์วิจารณ์ และหลายต่อหลายครั้งก็ใส่ร้ายป้ายสีอุตสาหกรรมของเรา การกระทำเช่นนี้ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ในการรับมือกับความท้าทายที่เรากำลังเผชิญเลย" นายเวิร์ธระบุในจดหมายเปิดผนึกถึงปธน.ไบเดนเมื่อวันอังคาร (21 มิ.ย.)

ไมเคิล เวิร์ธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเชฟรอน

จากนั้น คล้อยหลังเพียงสองชั่วโมง ปธน.ไบเดนก็ให้สัมภาษณ์ประเด็นดังกล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงวอชิงตันว่า "นายเวิร์ธอ่อนไหวมากเกินไป ผมไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะใจน้อยง่าย ๆขนาดนั้น"

 

ทั้งนี้ ทำเนียบขาวได้เชิญประธานเจ้าหน้าที่บริหารจากโรงกลั่นและบริษัทน้ำมัน 7 แห่ง ซึ่งรวมถึงเชฟรอน เข้าร่วมการประชุมในสัปดาห์นี้ (ตามกำหนดการคือวันพฤหัสฯที่ 23 มิ.ย.) เพื่อหารือวิธีเพิ่มกำลังการผลิตและลดราคาพลังงานลงมา ซึ่งนายเวิร์ธ ซีอีโอเชฟรอน ก็ได้ตอบรับเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้แล้ว

 

อ่านเพิ่มเติม: รัฐบาลสหรัฐงัดบริษัทพลังงาน นัดโรงกลั่นถกปัญหาราคาน้ำมัน

 

ปธน.ไบเดนได้วิพากษ์วิจารณ์บริษัทน้ำมันที่ทำกำไรสูงเป็นประวัติการณ์ พร้อมเรียกร้องให้บริษัทเหล่านี้เพิ่มการผลิตน้ำมันและเพิ่มกำลังการกลั่นน้ำมัน เพื่อช่วยชะลอราคาน้ำมันเบนซินในตลาด นอกจากนี้ ปธน.ไบเดนยังกล่าวหาว่า บริษัทเอ็กซอน โมบิล คอร์ป ร่ำรวยอย่างมหาศาล แต่กลับไม่ยอมขุดเจาะน้ำมันให้เพียงพอต่อความต้องการ

 

สื่อรายงานว่า ปธน.ไบเดนได้กล่าวตำหนิบริษัทโรงกลั่นน้ำมันของสหรัฐที่มีกำไรมหาศาลจากการกลั่นน้ำมัน ขณะที่ชาวอเมริกันประสบความยากลำบากจากปัญหาน้ำมันราคาแพง

"กำไรจากการกลั่นน้ำมันพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ แต่บริษัทกลับผลักภาระให้แก่ครอบครัวชาวอเมริกัน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ไม่อาจจะยอมรับได้” ปธน.ไบเดนอ้างอิงสถิติที่ว่า นับตั้งแต่ต้นปีมานี้ กำไรจากการกลั่นน้ำมันเบนซินและดีเซลพุ่งขึ้นถึง 3 เท่า และขณะนี้กำลังแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

 

ในจดหมายทำเนียบขาวส่งถึงบริษัทน้ำมันหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงเอ็กซอน โมบิล และเชฟรอน ปธน.ไบเดนระบุว่า บริษัทน้ำมันและโรงกลั่นจะต้องดำเนินการโดยทันทีเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำมันเบนซิน ดีเซล และผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นประเภทอื่นๆ โดยร่วมมือกับรัฐบาลในการแก้ไขวิกฤตการณ์ในครั้งนี้

 

ปัจจุบัน สมรรถนะการกลั่นน้ำมันในสหรัฐลดลงนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเป็นสาเหตุการพุ่งขึ้นของราคาเชื้อเพลิงภายในประเทศ ซึ่งช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันเบนซินในสหรัฐเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 5 ดอลลาร์ต่อแกลลอน หรือ ประมาณ 1.3 ดอลลาร์ต่อลิตร ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่มีการเปิดเศรษฐกิจ เปิดประเทศ และประชาชนชาวอเมริกัน หันกลับมาเดินทางอีกครั้งโดยไม่ต้องมีมาตรการควบคุมโควิดมาสกัดกั้น

 

คลิกดู เปรียบเทียบราคาน้ำมันในประเทศต่าง ๆ ได้ ที่นี่