ตลาดป่วน! หุ้น-น้ำมัน-ทอง กอดคอดิ่งเหวเซ่นแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอย

06 ก.ค. 2565 | 00:14 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ก.ค. 2565 | 07:32 น.

ราคาสินทรัพย์ทั่วโลก ทั้งหุ้น น้ำมัน และทองคำ ต่างทรุดตัวลงวานนี้ (5 ก.ค.) ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ในสหรัฐอเมริกา

ภาพรวมวานนี้ (5 ก.ค.) เป็นไปในทิศทางลบ ดัชนีดาวโจนส์ ทรุดตัวลง 700 จุด หรือ 2.25% ขณะที่ ดัชนี S&P 500 ดิ่งลง 2% และ ดัชนี Nasdaq ร่วงลง 1% โดยหุ้นทุกกลุ่มในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทต่างปรับตัวลง นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานตามการดิ่งลงของ ราคาน้ำมัน ในตลาดโลก

 

ส่วน สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 8% หลุดระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลง 9.50% หลุดระดับ 103 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ซิตี้กรุ๊ปคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะทรุดตัวลงแตะระดับ 65 ดอลลาร์ในปลายปีนี้ หากเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย

 

ด้าน ราคาทองฟิวเจอร์ ดิ่งลงกว่า 30 ดอลลาร์ หลุดระดับ 1,770 ดอลลาร์เมื่อวันอังคาร (5 ก.ค.) ถึงแม้ทองได้รับการมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ และเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในยามที่ตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความมุ่งมั่นในการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ก็ได้บดบังปัจจัยบวกดังกล่าว เนื่องจากการดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทอง เนื่องจากทองเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐอเมริกาเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว

 

ทั้งนี้ เฟดสาขาแอตแลนตาเปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 2.1% ในไตรมาส 2 จากเดิมที่บ่งชี้ว่ามีแนวโน้มหดตัว 1.0%

 

ตัวเลขคาดการณ์ GDPNow บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวในไตรมาส 2 รุนแรงกว่าไตรมาส 1 ซึ่งหดตัว 1.6% และแสดงว่าเศรษฐกิจสหรัฐนั้นได้เข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน

 

(อ่านเพิ่มเติม: ไม่รอด เฟดส่งสัญญาณ "เศรษฐกิจสหรัฐ"ถดถอยแล้ว )

 

เฟดสาขาแอตแลนตาจะรายงานตัวเลขคาดการณ์ GDPNow ครั้งใหม่ในวันที่ 7 ก.ค.นี้

นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เฟดมีความมุ่งมั่นในการสกัดเงินเฟ้อ แม้การใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินจะชะลอการขยายตัวทางเศรษฐกิจก็ตาม แต่ก็เชื่อว่าจะไม่สร้างความเสี่ยงที่รุนแรง

 

"เรามีความมุ่งมั่นที่จะใช้เครื่องมือทั้งหมดที่เรามีเพื่อทำให้เงินเฟ้อปรับตัวลง ซึ่งการกระทำดังกล่าวก็คือการลดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งแม้จะมีความเสี่ยง แต่ผมก็มองว่านี่ไม่ใช่ความเสี่ยงใหญ่ที่สุดต่อเศรษฐกิจ โดยความผิดพลาดมากกว่าที่อาจเกิดขึ้นก็คือความล้มเหลวในการรักษาเสถียรภาพด้านราคา" นายพาวเวลล์กล่าว

เงินเฟ้อโลก ณ เดือน พ.ค. 2565