เหตุเหยียบกันตาย ครั้งนี้เกิดขึ้นที่ สนามฟุตบอล กันจูรูฮาน อำเภอมาลัง จังหวัดชวาตะวันออก ประเทศอินโดนีเซีย หลังจากที่ทีมเจ้าบ้าน อารีมา เอฟซี (Arema FC) พ่ายแพ้ต่อทีม เปอร์เซบายา เอฟซี (Persebaya FC) ด้วยคะแนน 2-3 ทำให้แฟนฟุตบอลของทีมเจ้าบ้านที่ไม่พอใจผลการแข่งขัน พากันขว้างปาขวดและสิ่งของต่าง ๆ ใส่นักฟุตบอลและเจ้าหน้าที่ในสนาม หลายคนวิ่งลงไปในสนามฟุตบอลจนเกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่
เหตุการณ์บานปลายกลายเป็นโศกนาฏกรรมเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาควบคุมสถานการณ์ได้เริ่มใช้แก๊สน้ำตาสลายบรรดาแฟนฟุตบอลที่ก่อจลาจลหลังเกมการแข่งขันจบลง ทำให้ฝูงชนในสนามเกิดความแตกตื่นและเหยียบกันจนเสียชีวิตในที่สุด
ทั้งนี้ ในช่วง 23 ปีที่ผ่านมา ทีมอารีมาไม่เคยพ่ายแพ้ในบ้านต่อทีมคู่ปรับอย่างเปอร์เซบายามาก่อน ทำให้แฟนฟุตบอลต้องการทวงถามความรับผิดชอบจากบรรดาเจ้าหน้าที่ของทีมอเรมาหลังจากที่การแข่งขันจบลง
นายเอมิล ดาร์ดัก รองผู้ว่าราชการจังหวัดชวาตะวันออก เปิดเผยข้อมูลอัพเดทว่า จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุเหยียบกันตายในสนามฟุตบอลอย่างน้อย 174 คน ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้จะเพิ่มขึ้นอีก
ขณะที่นายสมาน ฮามิด กรรมการบริหารขององค์กรสิทธิมนุษยชน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล อินโดนีเซีย ให้ความเห็นว่า การตัดสินใจใช้แก๊สน้ำตาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นเรื่องเกินกว่าเหตุหรือไม่ "การสูญเสียชีวิตในครั้งนี้ต้องมีคำตอบ แก๊สน้ำตาควรใช้เพื่อสลายฝูงชนเมื่อเกิดความรุนแรงในวงกว้างและเมื่อวิธีการอื่นใช้ไม่ได้ผลเท่านั้น"
ด้านประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย ได้สั่งการให้ตำรวจสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสั่งการให้ตำรวจประเมินมาตรการรักษาความปลอดภัยในการแข่งขันฟุตบอลทั้งหมด พร้อมมีคำสั่งไปยังสมาคมฟุตบอลอินโดนีเซีย (PSSI) ให้ระงับการแข่งขันฟุตบอลทั้งหมดในประเทศ จนกว่าการสืบสวนจะเสร็จสิ้น
"ผมเสียใจกับโศกนาฏกรรมครั้งนี้ และหวังว่าจะเป็นโศกนาฏกรรมครั้งสุดท้ายของการแข่งขันฟุตบอลในประเทศ อย่าให้โศกนาฏกรรมด้านมนุษยธรรมแบบนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต"
เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในโศกนาฏกรรมในสนามกีฬาครั้งเลวร้ายที่สุดในโลก เกิดขึ้นเมื่อคืนวันเสาร์ (1 ต.ค.) ที่สนามกีฬากันจูรูฮาน (Kanjuruhan) ในเมืองมาลัง จังหวัดชวาตะวันออก หลังจากทีมอารีมา พ่ายให้กับทีมเปอร์เซบายา จากนั้นแฟนบอลทีมอารีมาที่พ่ายคาบ้านได้ปีนข้ามรั้วเข้าไปในสนามฟุตบอล โดยพยายามวิ่งไล่นักฟุตบอลและเจ้าหน้าที่ของทีมเปอร์เซบายา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตัดสินใจยิงแก๊สน้ำตาเพื่อสลายฝูงชน จนทำให้ฝูงชนแตกตื่นและแย่งกันออกจากสนามกีฬาจนเหยียบกันตายบริเวณประตูทางออก
นายมาห์ฟัด เอ็มดี รัฐมนตรีประสานงานด้านการเมือง กฎหมาย และความมั่นคงของอินโดนีเซีย เปิดเผยผ่านบัญชีโซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการว่า ไม่มีการปะทะกันระหว่างแฟนบอลของทั้งสองทีม เพราะแฟนบอลของทีมเปอร์เซบายาไม่ได้เข้าชมการแข่งขันในสนาม
เขาระบุว่า เหยื่อส่วนใหญ่เสียชีวิตจากการถูกเหยียบ การขาดอากาศหายใจ และการเบียดเสียดกัน พร้อมกับเสริมว่า มีการขายตั๋วมากถึง 42,000 ใบ ในขณะที่สนามกีฬาดังกล่าวมีความจุเพียง 38,000 คนเท่านั้น