กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ แถลงวานนี้ (2 ธ.ค.) ว่า บริษัทผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์ของจีน ได้ใช้ ฐานการผลิตในไทย มาเลเซีย เวียดนาม และกัมพูชา เพื่อหลีกเลี่ยงการเรียกเก็บ ภาษีนำเข้า จากสหรัฐ
ทั้งนี้ บริษัทดังกล่าว ได้แก่ BYD Co., Canadian Solar International Ltd., Trina Solar Science & Technology Ltd. และ Vina Solar Technology Co. ซึ่งแผงโซลาร์เซลล์ของบริษัททั้ง 4 คิดเป็นสัดส่วนราวครึ่งหนึ่งของจำนวนทั้งหมดที่มีการนำเข้าในสหรัฐอเมริกา
การแถลงของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐครั้งนี้ เป็นเพียงคำตัดสินเบื้องต้น ซึ่งหลังจากนี้ ทางกระทรวงฯ จะส่งเจ้าหน้าที่มายังประเทศไทย มาเลเซีย เวียดนาม และกัมพูชา เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง ก่อนที่จะมีคำตัดสินขั้นสุดท้ายในเดือนพ.ค.2566 ซึ่งหากผิดจริงอาจจะทำให้มีการเรียกเก็บภาษีย้อนหลังสูงถึง 250%
แม้สุดท้ายแล้ว ทางกระทรวงฯ มีผลการตัดสินว่าจะเรียกเก็บภาษีต่อแผงโซลาร์เซลล์จากไทย มาเลเซีย เวียดนาม และกัมพูชา แต่ก็จะยังไม่มีผลบังคับใช้เป็นเวลา 2 ปี
สาเหตุเนื่องจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ได้ใช้อำนาจประธานาธิบดีออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวต่อการนำเข้าอุปกรณ์ดังกล่าว โดยจัดให้เป็นสินค้าปลอดภาษีนำเข้าเป็นเวลา 24 เดือน เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐเอง สามารถเพิ่มกำลังการผลิตแผงโซลาร์เซลล์ และผลักดันนโยบายพลังงานสะอาดของปธน.ไบเดนให้ได้เสียก่อน
ก่อนหน้านี้ ออกซิน โซลาร์ (Auxin Solar) ซึ่งเป็นบริษัทที่ตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ยื่นฟ้องต่อกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเพื่อให้มีการสอบสวนว่า ผู้ผลิตของจีนได้โยกย้ายฐานการผลิตอุปกรณ์เกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์เข้าสู่ไทย มาเลเซีย เวียดนาม และกัมพูชาเพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการภาษีจากทางสหรัฐหรือไม่
แต่ความเคลื่อนไหวของออกซิน โซลาร์ก็ได้รับแรงต้านจากสมาคมอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ของสหรัฐ (SEIA) ที่ออกมาเตือนว่า การสอบสวนดังกล่าวจะส่งผลให้การลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ในสหรัฐต้องหยุดชะงักลง หลังจากที่ได้ชะลอตัวลงมาอยู่แล้วเนื่องจากปัจจัยลบเหล่านี้ ได้แก่
ซึ่งเหล่านี้นับเป็นปัจจัยขัดขวางนโยบายของปธน.ไบเดนที่ต้องการสนับสนุนโครงการใช้พลังงานหมุนเวียนในสหรัฐอเมริกา