เวียดนามเนื้อหอม บริษัทยักษ์ใหญ่สหรัฐแห่ลงทุน "เน็ตฟลิกซ์-โบอิ้ง"ด้วย

22 มี.ค. 2566 | 08:00 น.
อัปเดตล่าสุด :22 มี.ค. 2566 | 08:27 น.

หลายบริษัทยักษ์ใหญ่สหรัฐ รวมทั้ง"เน็ตฟลิกซ์-โบอิ้ง" ต่างสนใจเข้ามาลงทุนใน "เวียดนาม" หลัง GDP ของประเทศขยายตัว 8% ในปีที่แล้ว สวนทางกับเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวในวงกว้าง ขณะที่นักลงทุน"จับตาภูมิภาคอาเซียน" เศรษฐกิจโตเร็ว อนาคตไกล

หลายสิบบริษัทสหรัฐ มารวมตัวกันที่เวียดนาม เพื่อเข้าร่วมพันธกิจทางธุรกิจที่ใหญ่ที่สุด จัดโดย “สภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน”  มุ่งผลักดันเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และกำลังเป็นที่ดึงดูดใจของนักลงทุนจากจีน ในการเข้ามาขยายตลาด และห่วงโซ่อุปทานของตน เพราะถือเป็นทำเลที่มีศักยภาพ  

งานนี้จัดทุกปี ปีนี้ดำเนินการโดยอดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเวียดนาม มีผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทสหรัฐ เข้าร่วมงานครั้งนี้ 52 บริษัท รวมถึง 2 บริษัทยักษ์ใหญ่สหรัฐอย่าง โบอิ้ง (BA) และเน็ตฟลิกส์ (Netflix) ด้วย

"ผู้บริหารโบอิ้ง" ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังเตรียมหารือกับรัฐบาลเวียดนาม เพื่อเพิ่มร่วมมือระหว่างกัน และหาแนวทางเพื่อเสริมขีดความสามารถด้านการบินและการป้องกันประเทศ 

ที่ผ่านมาโบอิ้งเข้ามาลงทุนและดำเนินธุรกิจในเวียดนามต่อเนื่อง ทั้งการตั้งอาคารสำนักงาน ร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ของเวียดนามในด้านการผลิต, โครงสร้างพื้นฐาน, บริการด้านวิศวกรรม, ความปลอดภัยในการบิน, ความยั่งยืน, การวิจัยและเทคโนโลยี, การฝึกอบรม และการพัฒนาทักษะ

ด้าน "เน็ตฟลิกส์" ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดความร่วมมือกับเวียดนาม   แต่มีรายงานจากวงในว่าสื่อยักษ์ใหญ่กำลังศึกษาวิธีและกฎระเบียบใหม่ของเวียดนาม เพื่อขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจเพื่อให้บริการสตรีมมิ่ง ขณะเดียวกันบริษัทกำลังวางแผนที่จะเปิดสำนักงานแห่งแรกในเวียดนามด้วย

The Bliz ที่รวบรวมข้อมูลจากหลายบริษัทสหรัฐ ประเมินว่าสาเหตุที่เวียดนามกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ เพราะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจรวดเร็ว และจำนวนชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้น ทำให้ GDP ของประเทศขยายตัว 8% ในปีที่แล้ว สวนทางกับเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวในวงกว้าง

แต่การที่เวียดนามมีจำนวนประชากรมากกว่า 97 ล้านคนก็ถือเป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ  เพราะเวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่ต้องพึ่งพาการค้ากับต่างประเทศมากที่สุดในโลก ช่วงที่ผ่านมา  “การส่งออกเวียดนามได้รับผลกระทบหนักที่สุด จากอุปสงค์ทั่วโลกที่ชะลอตัวลง” ตามรายงานของ Capital Economics

Oxford Economics คาดการณ์ว่าการเติบโตของ GDP ของเวียดนามในปีนี้ จะชะลอตัวลงเหลือ 4.2% จาก“ประเทศคู่ค้าที่เศรษฐกิจยังอ่อนแอ และความเสี่ยงทางการเงินของโลกที่เพิ่มขึ้น”

ที่มา : CNN