สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ มีมติผ่าน ร่างกฎหมายการขยายเพดานหนี้ ที่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า "พ.ร.บ.ความรับผิดชอบทางการคลัง" (Fiscal Responsibility Act) ด้วยคะแนนเสียง 314 ต่อ 117 เสียง ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ ครั้งประวัติศาสตร์
ร่างกฎหมายฉบับนี้ จะถูกส่งต่อเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาสหรัฐเป็นลำดับถัดไป และหากวุฒิสภาให้ความเห็นชอบ ก็จะส่งต่อให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ลงนามเป็นกฎหมายเพื่อให้มีผลบังคับใช้ในที่สุด
ทั้งนี้ กระบวนการผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้จะต้องเสร็จสิ้นก่อนเส้นตายวันจันทร์ที่ 5 มิ.ย. ซึ่งเป็นวันที่คาดว่ารัฐบาลจะไม่มีเงินจ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มิฉะนั้น สหรัฐจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์
รายงานระบุว่า ก่อนที่ร่างกฎหมายการขยายเพดานหนี้จะผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรนั้น ได้เกิดความขัดแย้งในหมู่สมาชิกพรรครีพับลิกัน หลังจากที่สมาชิกสายอนุรักษ์นิยมมากกว่า 20 รายส่งสัญญาณว่าจะโหวตคว่ำร่างกฎหมายฉบับนี้ พร้อมกับการกล่าวหาว่า นายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้ยอมอ่อนข้อให้กับปธน.โจ ไบเดน เพื่อแลกเปลี่ยนกับการปรับรายละเอียดเล็กๆน้อยๆในงบประมาณ แทนที่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ตามที่มีการตกลงกันไว้
ด้านสำนักงานงบประมาณแห่งสภาคองเกรสสหรัฐ (CBO) คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐจะลดลงราว 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 10 ปีข้างหน้า หากร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสและมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย
“ข้อตกลงนี้เป็นข่าวดีสำหรับคนอเมริกันและเศรษฐกิจอเมริกันในภาพรวม” ปธน.ไบเดนกล่าวหลังการลงคะแนนของสภาผู้แทนฯ "ผมขอเรียกร้องให้วุฒิสภาผ่านร่างกฎหมายโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อที่ผมจะได้ลงนามในกฎหมาย"