คืบหน้าช่วย 266 คนไทยพ้นนรกเล้าก์ก่าย เตรียมบินเช่าเหมาลำรับกลับไทยคืนนี้

19 พ.ย. 2566 | 07:37 น.
อัปเดตล่าสุด :19 พ.ย. 2566 | 07:50 น.

กต.เผยความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือนำ 266 คนไทย ที่ถูกล่อลวงไปทำงานและติดอยู่ในสถานการณ์สู้รบในเมืองเล้าก์ก่าย ประเทศเมียนมา มาอยู่ในสถานที่ปลอดภัยในประเทศจีนแล้ว ขณะนี้ทุกคนปลอดภัย รัฐบาลเตรียมนำเครื่องบินเช่าเหมาลำไปรับจากเมืองคุนหมิง กลับถึงไทยคืนนี้

 

กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) รายงาน การช่วยเหลือคนไทยในเมียนมา ล่าสุดวันนี้ (19 พ.ย.) ระบุว่า ทางการเมียนมาได้ช่วยจัดส่งคนไทยจาก เมืองเล้าก์ก่าย จำนวน 266 คน ไปยังชายแดนจีน และทางการจีนได้อนุญาตให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวข้ามชายแดนเข้าไปยังจีนเพื่อเดินทางกลับประเทศไทยแล้ว โดยกระทรวงการต่างประเทศได้จัดเครื่องบินเช่าเหมาลำ 2 ลำโดยสายการบินแอร์เอเชียและสายการบินไลออนแอร์ เตรียมนำคนไทยกลุ่มดังกล่าวกลับไทยจากนครคุนหมิง

ทั้งนี้ เมื่อเครื่องบินอพยพคนไทยทั้ง 2 ลำ เดินทางถึงไทยช่วงค่ำวันนี้ (19 พฤศจิกายน) ที่สนามบินดอนเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จะอำนวยความสะดวกแก่คนไทยในการตรวจคนเข้าเมือง และคัดกรองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ (National Referral Mechanism - NRM) และผู้ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการอาชญากรรมข้ามชาติต่อไป

กระทรวงการต่างประเทศระบุว่า การให้ความช่วยเหลือคนไทยในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากรัฐบาลเมียนมาและรัฐบาลจีน ในการอำนวยความสะดวกตั้งแต่ต้นทาง และระหว่างทางการอพยพ

กล่าวคือ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ได้รับความร่วมมือจากทางการเมียนมาและมูลนิธิอิมมานูเอล ในการช่วยดูแลคนไทยด้านอาหาร น้ำ และเครื่องนุ่งห่ม ระหว่างรอการอพยพที่เมืองเล้าก์ก่าย ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ขณะที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง และสถานกงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง ในประเทศจีน ได้รับการอำนวยความสะดวกจากรัฐบาลส่วนกลางและท้องถิ่นของจีน ในด้านการเส้นทางการบิน และการตรวจคนเข้าเมือง จนประสบผลสำเร็จลุล่วงตามเป้าหมาย ตลอดจนการช่วยเหลือคนชาติของมิตรประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์และสิงคโปร์ออกมาด้วย

เมืองเล้าก์ก่าย (Loukine) ตั้งอยู่ในรัฐฉาน ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเมียนมา มีพรมแดนติดกับประเทศจีน

ทั้งนี้ ได้มีการสั่งการให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง เร่งติดตามช่วยเหลือคนไทยที่อาจยังหลงเหลืออยู่โดยเร็วต่อไป

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันเสาร์ (18 พ.ย.)ได้มีการช่วยเหลือคนไทยกลุ่มแรกจำนวน 41 คนจากเมืองเล้าก์ก่าย เมียนมา กลับถึงประเทศไทย โดยทั้งหมดเดินทางข้ามพรมแดนจาก จ.ท่าขี้เหล็ก เข้ามายัง อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยปลอดภัย ก่อนจะขึ้นรถบัสของกองทัพบกเดินทางไปยังสโมสรค่ายเม็งรายมหาราช  จ.เชียงราย เพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง โดยมีเจ้าหน้าที่ร่วมสอบปากคำ เพื่อคัดแยกกลุ่มที่เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ และกลุ่มที่เป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ออกจากกัน

กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ระบุว่า ขั้นตอนในการช่วยเหลือกลุ่มคนไทยจากเมืองเล้าก์ก่ายทั้งที่กลับมาแล้ว และกลุ่ม 266 คนที่กำลังจะกลับมาวันนี้ (19 พ.ย.) มีความซับซ้อนและมีกระบวนการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กล่าวคือ

  1. คนต่างชาติที่จะเข้าไปยังบริเวณเมืองเล้าก์ก่าย ล่าเซี่ยว และบริเวณดังกล่าว ต้องได้รับอนุญาตก่อนเข้าพื้นที่ จึงทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับการเข้าเมืองผิดกฎหมายเมียนมา ดังนั้น จึงมีกระบวนการศาลเข้ามาเกี่ยวข้องซึ่งใช้เวลานานในการพิจารณา และทางการเมียนมา ต้องยกเว้นการดำเนินคดีโดยอาศัย พรบ. ฉุกเฉิน
  2. นอกจากนี้ กลุ่มคนส่วนใหญ่ที่ทำงานที่เล้าก์ก่ายโดยมากกลุ่มเป็น call center หรือ scam center ทำให้กลุ่มคนไทยอาจเข้าข่ายสมรู้ร่วมคิด หรือมีส่วนรู้เห็นในการหลอกลวง ฉ้อฉล เพื่อให้ผู้อื่นหลงเชื่อโอนเงินให้ มีความผิด แต่มีเหตุยกเว้นโทษ หากถูกบังคับถูกทำร้ายร่างกาย ตกอยู่ภายใต้ความหวาดกลัว จึงต้องกระทำความผิด

เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว นายปานปรีย์  พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้สั่งการให้ทุกฝ่ายเร่งรัดดำเนินการเพื่อช่วยเหลือคนไทยออกสู่พื้นที่ปลอดภัยโดยเร็วที่สุด  ซึ่งที่ผ่านมา  กระทรวงการต่างประเทศ  สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้งและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้พยายามเจรจา ผลักดันและหารือกับทางการเมียนมาอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด  เพื่อให้ถือว่ากลุ่มคนไทยดังกล่าวเป็นผู้หนีภัยจากการสู้รบ  จึงสามารถทำให้ทางการเมียนมาเข้าใจและอำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับไทยให้คนเหล่านี้