ดร.เกา กิม ฮวน เลขาธิการอาเซียน เข้าเยี่ยมคารวะ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในห้วง การประชุมสุดยอดอาเซียน – ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ เพื่อฉลอง วาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน - ญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 14-18 ธันวาคม 2566 ณ กรุงโตเกียว โดยการพบปะครั้งนี้ มีขึ้นเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ในโอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ย้ำความปรารถนาของไทยให้อาเซียนมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และขอบคุณการสนับสนุนของเลขาธิการอาเซียนที่ให้แก่ไทย ในฐานะประเทศผู้ประสานงานอาเซียนด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน และผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น
ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือประเด็นสำคัญอื่น ๆ อาทิ การส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล วาระความยั่งยืน ความเป็นแกนกลางของอาเซียน สถานการณ์ในเมียนมา รวมถึงข้อริเริ่มของไทยในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งจะช่วยสนับสนุนความพยายามของอาเซียนในการดำเนินการตามฉันทามติ 5 ข้อเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมียนมาด้วย
ในวันเดียวกัน (17 ธ.ค.) นายปานปรีย์ยังได้ร่วมคณะของนายกรัฐมนตรี เข้าร่วม การประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ เพื่อ ฉลองวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในฐานะที่ไทยเป็น ประเทศผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น วาระปี พ.ศ. 2564-2567 ขอชื่นชมบทบาทที่สำคัญของญี่ปุ่น และความร่วมมือใกล้ชิดระหว่างอาเซียนกับญี่ปุ่น ที่มีมายาวนานกว่า 50 ปี ในการเสริมสร้างสันติภาพ เสถียรภาพ และการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในภูมิภาค
นอกจากนี้ ไทยยังสนับสนุนให้ญี่ปุ่นมีบทบาทที่สร้างสรรค์ท่ามกลางวิกฤติและความเปราะบางของสันติภาพโลก ความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์ ภูมิเศรษฐศาสตร์และภูมิเทคโนโลยี
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังได้เสนอแนวทางยกระดับความร่วมมืออาเซียน-ญี่ปุ่น เพื่อร่วมสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน 5 ประเด็น ได้แก่
นายกฯ ยังได้เน้นย้ำการเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนแบบใจถึงใจ (Heart-to-Heart Partnership) ผ่านการแลกเปลี่ยนในระดับประชาชน ทั้งในด้านการศึกษาและวัฒนธรรมจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับญี่ปุ่นที่มีมาอย่างยาวนาน
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้แลกเปลี่ยนความเห็นต่อสถานการณ์ในภูมิภาคและระหว่างประเทศ รวมถึงสถานการณ์ในเมียนมา โดยญี่ปุ่นแสดงความพร้อมที่จะร่วมมือกับไทยและอาเซียนในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมา ผู้นำอาเซียนและญี่ปุ่นยังได้รับรองแถลงการณ์ร่วมวิสัยทัศน์ว่าด้วยมิตรภาพและความร่วมมืออาเซียน-ญี่ปุ่นและแผนดำเนินงานฉบับใหม่ เพื่อกำหนดทิศทางความสัมพันธ์และขับเคลื่อนความร่วมมือภายใต้หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์แบบรอบด้านอาเซียน-ญี่ปุ่นในอนาคต
ในการให้สัมภาษณ์สื่อเกี่ยวกับผลการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่นครั้งนี้ ตอนหนึ่งของการให้สัมภาษณ์นายกฯกล่าวว่า “การเดินทางในครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จมาก และการพูดคุยในวันนี้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ซึ่งกระทรวงต่างประเทศเตรียมการไว้ดีมาก อย่างเรื่องนักธุรกิจไม่ต้องใช้วีซ่า เขา (ญี่ปุ่น) ขอมาช่วงที่เจอกันในที่ประชุมเอเปค ที่เมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาขอมาไม่ถึง 1 เดือนก็เรียบร้อย เพราะเรารู้ดีว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นคู่สัญญาที่สำคัญในการทำธุรกิจ นอกจากนี้ ยังมีการแสดงความเป็นห่วงสถานการณ์ในเมียนมา ผมจึงให้ความมั่นใจไปว่าประเทศไทยในฐานะเพื่อนบ้านที่ใกล้เคียงเราจะไม่ทอดทิ้งกัน ซึ่งก่อนหน้านี้นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯและรมว. ต่างประเทศ ได้ประชุมกับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนทั้งหมด โดยจะมีการตั้งกลุ่มขึ้นมาพูดคุยว่าจะช่วยเหลืออย่างไร“ นายกรัฐมนตรีกล่าว