“ฮุน มาแนต” ชี้ 5 จุดแข็งกัมพูชา ชวนเอกชนไทยเร่งร่วมลงทุน

07 ก.พ. 2567 | 14:12 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ก.พ. 2567 | 14:23 น.

สมเด็จฯ “ฮุน มาแนต” นายกฯกัมพูชา ย้ำความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชายกระดับสู่การเป็น "หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ" แล้ว ภาคเอกชนควรเร่งใช้ประโยชน์ให้เต็มที่จากบรรยากาศแห่งความร่วมมือนี้ ย้ำกัมพูชามี 5 จุดแข็งที่จะเอื้อประโยชน์ต่อนักลงทุน

 

7 กุมภาพันธ์ 2567 สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ร่วมกับ หอการค้ากัมพูชา (Cambodia Chamber of Commerce) จัด งานสัมมนา “Cambodia-Thailand Business Forum 2024” ณ โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ เนื่องในโอกาสการเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการของ สมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนต นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งเป็นประธานกล่าวเปิดงานและปาฐกถาพิเศษ

โดยช่วงหนึ่งของปาฐกถาพิเศษซึ่งกล่าวต่อภาคเอกชนไทยและกัมพูชาที่มาร่วมงานมากกว่า 300 คน สมเด็จฯ ฮุน มาแนต ระบุว่า การสร้างความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่สำคัญของกันและกัน เป็นเรื่องที่สำคัญมาก กัมพูชามุ่งเน้นที่จะสานต่อความร่วมมือกับไทยในประเด็นด้านการท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิด “Two Kingdoms One Destination” รวมถึงการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งกัมพูชาได้มีการพัฒนา ‘KHQR’ ระบบการชำระเงินภายในประเทศกัมพูชา เพื่อเชื่อมโยงการชำระเงินข้ามพรมแดนภายในกลุ่มอาเซียน

การปาฐกถาพิเศษโดยสมเด็จฯ ฮุน มาแนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา

สมเด็จฯ ฮุน มาแนต นายกฯกัมพูชา ย้ำความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชายกระดับสู่การเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ

ขณะเดียวกัน ผู้นำกัมพูชายังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อส่งเสริมการเชื่อมโยงทางการค้า รวมถึง การอำนวยความสะดวกบริเวณด่านชายแดน ทั้งนี้ ได้เชิญชวนนักลงทุนไทยให้เข้าไปลงทุนในกัมพูชาให้มากยิ่งขึ้นท่ามกลางบรรยากาศแห่งความร่วมมือและมิตรไมตรี

ทั้งนี้ สมเด็จฯ ฮุน มาแนต ระบุว่า กัมพูชามีจุดแข็ง 5 ด้าน คือ

  1. การเมืองและเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ
  2. เศรษฐกิจที่เปิดกว้างจากการที่กัมพูชามีความตกลงกับนานาประเทศทั้งทวิภาคีและพหุภาคี
  3. มีแรงงานที่มีความรู้ด้านอาชีวะศึกษาและเทคนิค
  4. โครงสร้างพื้นฐานที่สามารถอำนวยความสะดวกในการลงทุน
  5. รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการลดกระบวนการที่ซ้ำซ้อนทางกฎและระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักธุรกิจไทย

ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้าทวิภาคี 2 หมื่นล้านดอลลาร์

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวในงานเดียวกันว่า เอกชนไทยมองเห็นศักยภาพในการเข้าไปลงทุนในประเทศกัมพูชา โดยเฉพาะนโยบายที่เปิดกว้างของรัฐบาลกัมพูชา รวมถึงการสร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

การลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและหอการค้ากัมพูชา ณ ทำเนียบรัฐบาล ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (7 ก.พ.) จะมีส่วนช่วยเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกันให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางเศรษฐกิจ สนับสนุนการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมนักธุรกิจไทยและกัมพูชาร่วมกัน ตลอดจนเพิ่มโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและกัมพูชาในสาขาธุรกิจที่มีศักยภาพ ได้แก่

  • ธุรกิจค้าปลีก
  • ความร่วมมือทางการเกษตร
  • เศรษฐกิจดิจิทัล
  • การท่องเที่ยว
  • และความร่วมมือทางการแพทย์

ทั้งนี้ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยและกัมพูชาให้มีมูลค่าการค้าระหว่างกันให้เกิน 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2028

ด้านนายเนี้ยะ อกญา กิต เม้ง ประธานหอการค้ากัมพูชา กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงาน Cambodia-Thailand Business Forum ในวันนี้ ถือเป็นการสร้างความร่วมมือครั้งสำคัญของภาคเอกชนระหว่างสองประเทศ โดยไทยถือเป็นนักลงทุนที่สำคัญของกัมพูชาในหลากหลายธุรกิจ ทั้งภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร เช่น ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง และยาง ส่วนภาคการท่องเที่ยวมีการเข้าไปลงทุนในธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท และบริการทัวร์

ภาคเอกชนไทย-กัมพูชาเข้าร่วมฟังการเสวนาทางธุรกิจมากกว่า 300 คน

“ฮุน มาแนต” ชี้ 5 จุดแข็งกัมพูชา ชวนเอกชนไทยเร่งร่วมลงทุน

ขณะที่ด้านธุรกิจค้าปลีก ไทยยังมีส่วนเข้าไปลงทุนและขยายสาขาเชนร้านค้าทั่วประเทศ ทั้งนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมากัมพูชามีเศรษฐกิจขยายตัวต่อเนื่องเฉลี่ย 7% ประกอบกับมีแรงงานและค่าแรงในอัตราที่เหมาะสม กัมพูชาจึงเป็นทางเลือกสำคัญที่มุ่งหวังให้ภาคธุรกิจไทยเข้าไปขยายการลงทุนให้เพิ่มขึ้นในอนาคต