กระทรวงกลาโหมกัมพูชาระบุวานนี้ (2 เม.ย.) ว่า สภาพอากาศร้อนจัดจากผลพวงของคลื่นความร้อนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดเหตุคลังกระสุนระเบิดที่ฐานทัพแห่งหนึ่งในจังหวัดกำปงสปือ ประเทศกัมพูชา เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จนทำให้ทหารเสียชีวิตถึง 20 นายและบาดเจ็บอีกหลายราย ขณะเดียวกันมีเด็กถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 1 ราย
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เหตุระเบิดครั้งนี้ได้ทำลายรถบรรทุกกระสุนทั้งหมดและอาคารหลายแห่ง ขณะที่สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณคลังเก็บกระสุน ซึ่งทำให้อาคารสำนักงานแห่งหนึ่งและโรงทหารใกล้เคียงพังเสียหาย นอกจากนี้ บ้านเรือนในละแวกใกล้เคียงอีก 25 หลังก็ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้เช่นกัน
กระทรวงกลาโหมกัมพูชาระบุว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนเชื่อว่า คลื่นความร้อนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อาวุธเก่าดังกล่าวเกิดระเบิดขึ้นมา
"เหตุกระสุนระเบิดเมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2567 เกิดจากปัญหาทางเทคนิค โดยอาวุธอยู่ในสภาพเก่าไม่สมบูรณ์ และสภาพอากาศร้อนจัด" กระทรวงกลาโหมกัมพูชาระบุในแถลงการณ์
อย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมกัมพูชาไม่ได้อธิบายถึงปัญหาแบบจำเพาะเจาะจง และไม่ได้อธิบายรายละเอียดว่าอากาศร้อนส่งผลให้กระสุนระเบิดได้อย่างไร
ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้ปฏิเสธข้อสงสัยที่ว่าเหตุระเบิดครั้งนี้เป็นฝีมือของทหารฝ่ายกบฏหรือการก่อการร้าย
ด้านสำนักข่าวอัลจาซีรารายงานอ้างอิงแถลงการณ์ของนายฮุน มาแนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่เผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ระบุว่า เขารู้สึกช๊อคอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้สูญเสียทุกครอบครัว เขาสัญญาว่ารัฐบาลจะจ่ายค่าทำศพและจ่ายค่าชดเชยให้ทั้งในส่วนของผู้วายชนม์และผู้ได้รับบาดเจ็บทุกคน
ทั้งนี้ รูปภาพบนสื่อโซเชียลมีเดียที่เผยให้เห็นอาคารชั้นเดียวที่ถูกทำลายและปกคลุมไปด้วยกลุ่มควันไฟ นอกจากนี้ ยังมีภาพผู้ได้รับบาดเจ็บที่ดูเหมือนจะเป็นพลเรือน รวมทั้งเด็กเล็กสวมผ้าอ้อมที่ถูกนำส่งโรงพยาบาล
รายงานข่าวระบุว่า อุบัติเหตุเกี่ยวกับอาวุธยุทโธปกรณ์ไม่ใช่เรื่องแปลกในกัมพูชา ซึ่งเต็มไปด้วยกระสุนหลังมีความขัดแย้งกลางเมืองมานานหลายทศวรรษ อุบัติเหตุเลวร้ายที่เกี่ยวกับอาวุธมักจะเกิดจากมาตรฐานความปลอดภัยที่หละหลวมบ่อยครั้ง
กองทัพกัมพูชากล่าวว่าเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดจากการระเบิดของคลังเก็บกระสุนซึ่งทำให้รถที่บรรทุกอาวุธอยู่เต็มคันพลอยระเบิดเป็นจุณไปด้วย
อาคารสำนักงานแห่งหนึ่งและค่ายทหารในบริเวณใกล้เคียงถูกทำลาย บ้านเรือนในบริเวณใกล้เคียง 25 หลังได้รับความเสียหายจากการระเบิดเช่นกัน
กัมพูชาประกาศเตือนเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า อุณหภูมิอากาศอาจพุ่งแตะ 43 องศาเซลเซียสในบางพื้นที่ แม้คาดการณ์ว่า จะมีฝนตกและอากาศเย็นลงในช่วงหลายวันข้างหน้าก็ตาม กระทรวงอุตุนิยมวิทยาและทรัพยากรน้ำของกัมพูชาระบุว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อุณหภูมิอากาศที่ตรวจวัดได้นั้น ถือว่าเป็นอุณหภูมิสูงสุดในรอบ 170 ปีของประเทศกัมพูชา
ข่าวระบุว่า ประเทศอื่นๆในอาเซียนก็กำลังเผชิญสถานการณ์อากาศร้อนที่แทบไม่แตกต่างกันกับกัมพูชา โดยอุณหภูมิพุ่งแตะ 50 องศาเซลเซียสในหลายพื้นที่ของประเทศฟิลิปปินส์ ส่งผลกระทบต่อนักเรียนนักศึกษากว่า 3.6 ล้านคน เมื่อสถานศึกษาถูกสั่งปิดชั่วคราวเนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัด
ขณะที่รัฐบาลไทยระบุว่า อากาศร้อนจัดในประเทศไทยทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 30 คนในปีนี้ ขณะที่ปริมาณการใช้ไฟฟ้าพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์