สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายฮันเตอร์ ไบเดน บุตรชายของ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา ถูกคณะลูกขุนศาลรัฐบาลกลางในเมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ ตัดสินวานนี้ (11 มิ.ย.) ว่า มีความผิดทางอาญา 3 กระทง ในคดีที่เกี่ยวข้องกับการซื้ออาวุธปืนเมื่อปี 2561 โดยเขาให้ข้อมูลเท็จในการกรอกแบบฟอร์มขอซื้อปืนดังกล่าว
คณะลูกขุนใช้เวลาราว 3 ชั่วโมงก่อนตัดสินว่า ฮันเตอร์ ไบเดน วัย 54 ปี มีความผิดฐานให้ข้อมูลเท็จในแบบฟอร์มของรัฐบาลกลางสำหรับผู้ที่จะซื้ออาวุธปืนในสหรัฐฯ จากการที่ตอบว่า ตนไม่เสพสารเสพติด และเขาครอบครองปืนกระบอกนั้นไว้เป็นเวลา 11 วัน ทั้งนี้ ความผิดของเขามี 3 กระทง คือ แจ้งข้อความอันเป็นเท็จในเอกสารลงทะเบียนซื้ออาวุธปืน จำนวน 2 กระทง และครอบครองอาวุธปืนระหว่างเป็นผู้เสพติดหรือใช้ยาผิดกฎหมาย 1 กระทง
ฮันเตอร์อาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 25 ปี และปรับเงินอีก 750,000 ดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 27.6 ล้านบาท) แต่เนื่องจากเป็นการกระทำความผิดครั้งแรกจึงเชื่อว่าเขาจะไม่ได้รับโทษสูงสุด ซึ่งขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของผู้พิพากษา
ข่าวระบุว่า ศาลจะมีคำพิพากษาบทลงโทษของเขาภายใน 120 วันหลังถูกตัดสินว่ามีความผิด
ที่ผ่านมา ปธน.ไบเดน พยายามนำตัวออกห่างจากการพิจารณาคดีบุตรชายของตน และไม่พูดถึงคดีดังกล่าวมากนัก เนื่องจากเกรงว่าจะสร้างบรรยากาศของการแทรกแซงกระบวนการพิจารณาคดี
อย่างไรก็ตาม หลังทราบผลการตัดสินของศาลเมื่อวันอังคาร (11 มิ.ย.) ปธน.ไบเดน ยืนยันว่า จะยอมรับและเคารพผลการตัดสินนี้ และจะไม่ขออภัยโทษให้กับบุตรชายของตนในขณะที่เขากำลังเตรียมยื่นอุทธรณ์คำตัดสิน
"จิลและกระผมจะอยู่ที่นั่นเสมอเพื่อฮันเตอร์และสมาชิกครอบครัวทุกคน ด้วยความรักและการสนับสนุนอย่างไม่เปลี่ยนแปลง" ส่วนหนึ่งในแถลงการณ์ของปธน.ไบเดน ระบุ
นับเป็นครั้งแรกที่ทายาทของประธานาธิบดีในตำแหน่งถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงในคดีอาญา แม้ว่าเขาจะก่อความผิดก่อนที่ โจ ไบเดน จะได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีก็ตาม
นอกจากคดีที่เกี่ยวกับการครอบครองปืนอย่างผิดกฎหมายแล้ว นายฮันเตอร์ซึ่งเป็นบุตรชายคนเล็กของไบเดน เคยมีปัญหาเกี่ยวกับการใช้ยาเสพติดและตกเป็นเป้าของการสืบสวนคดีธุรกิจข้ามชาติ เขายังมีอีกคดีที่จะต้องเผชิญ คือคดีจ่ายภาษีไม่ทันตามกำหนดมูลค่า 1.4 ล้านดอลลาร์ ซึ่งการพิจารณาคดีดังกล่าวจะมีขึ้นที่รัฐแคลิฟอร์เนียในเดือนกันยายนนี้
ที่ผ่านมา อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่คู่แข่งของโจ ไบเดน ในการชิงตำแหน่งปธน.สหรัฐฯ ปลายปีนี้ และสมาชิกพรรครีพับลิกันคนอื่น ๆ พยายามหาทางเอาผิดบุตรชายของปธน.ไบเดนในหลายข้อหา รวมถึงข้อกล่าวหาที่ว่า เขาทำธุรกิจอย่างไม่ถูกต้องในยูเครนและจีน โดยอาศัยชื่อบิดาของตนในการตกลงทำสัญญาธุรกิจมูลค่ามหาศาล