กลียุคความรุนแรง "สหรัฐฯ" เดือด "ทรัมป์" เกือบดับ สังคมอเมริกันแตกแยก

14 ก.ค. 2567 | 05:20 น.
อัพเดตล่าสุด :14 ก.ค. 2567 | 05:38 น.

การเมืองสหรัฐฯ เดือด "ทรัมป์" รอดชีวิตจากการถูก "ลอบสังหาร" ผลสำรวจล่าสุดชี้ ประชาชนเสียงแตก สนับสนุนความรุนแรง ความแตกแยกระอุในสังคมอเมริกัน

อดีตประธานาธิบดี "โดนัลด์ ทรัมป์" รอดชีวิตจากการถูกลอบยิง ระหว่างการหาเสียงที่เมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงทางการเมืองที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นในสหรัฐอเมริกา ตามรายงานระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 รายจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ขณะที่ผู้ต้องสงสัยถูกวิสามัญฆาตกรรม อย่างไรก็ตาม จากรายงานล่าสุดยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับแรงจูงใจของคนร้าย

 

ขณะที่ผลสำรวจล่าสุดจากมหาวิทยาลัยชิคาโก สหรัฐอเมริกา พบว่า ชาวอเมริกันถึง 26 ล้านคนสนับสนุนการใช้ความรุนแรงเพื่อขัดขวางไม่ให้ทรัมป์กลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง ขณะที่มี 18 ล้านคนสนับสนุนการใช้ความรุนแรงเพื่อโต้กลับและช่วยเหลือทรัมป์ ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นถึงความแตกแยกอย่างรุนแรงในสังคมอเมริกัน

 

ศาสตราจารย์บ็อบ เพป จากมหาวิทยาลัยชิคาโก กล่าวว่า "ขณะนี้มีความรู้สึกต่อต้านทรัมป์ที่รุนแรงมากกว่าความรู้สึกสนับสนุนทรัมป์ เราต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นจากฝ่ายที่ต่อต้านทรัมป์"

 

ความรุนแรงทางการเมืองในสหรัฐฯ มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน โดยเฉพาะในช่วงทศวรรษ 1960 ถึง 1970 ที่มีการลอบสังหารผู้นำทางการเมืองหลายคน เช่น มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ และ โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี รวมถึงเหตุการณ์สังหารหมู่นักศึกษาที่มหาวิทยาลัยเคนต์สเตต

 

ปัจจุบัน ความรุนแรงทางการเมืองมีรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น ตั้งแต่การบุกรุกอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 การข่มขู่คุกคามเจ้าหน้าที่การเลือกตั้ง ไปจนถึงการโจมตีทางไซเบอร์ต่อนักการเมืองและหน่วยงานรัฐ

 

ปัจจัยที่ทำให้เกิดความรุนแรงทางการเมืองมากขึ้น สืบเนื่องมาจาก ความแตกแยกทางความคิดอย่างรุนแรง การแพร่กระจายของข้อมูลเท็จในโซเชียลมีเดีย และ วาทกรรมที่ปลุกเร้าจากนักการเมือง

 

ผู้นำทางการเมืองหลายคนได้ออกมาประณามเหตุการณ์ครั้งนี้ ประธานาธิบดีคนปัจจุบัยของสหรัฐฯ โจ ไบเดน กล่าวว่า "ไม่มีที่ว่างสำหรับความรุนแรงเช่นนี้ในอเมริกา เราต้องรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อประณามการกระทำอุกอาจนี้" ขณะที่อดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา ก็ได้ออกแถลงการณ์เช่นกัน โดยระบุว่า "ไม่มีที่สำหรับความรุนแรงทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของเรา"

 

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การใช้ความกลัวเป็นเครื่องมือทางการเมืองในการหาเสียงปีนี้ อาจทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น จึงจำเป็นต้องมีการรณรงค์ให้เกิดการพูดคุยอย่างสร้างสรรค์และลดความขัดแย้งในสังคมอเมริกัน นอกจากนี้ ยังมีความกังวลเกี่ยวกับกลุ่มหัวรุนแรงที่อาจใช้ความรุนแรงเพื่อบรรลุเป้าหมายทางการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำลังจะมาถึง

 

อย่างไรก็ตาม ผู้นำทางการเมืองหลายคนได้ออกมาประณามเหตุการณ์ครั้งนี้และเรียกร้องให้มีการลดความขัดแย้ง ประธานาธิบดีไบเดนและอดีตประธานาธิบดีโอบามาต่างก็ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ยุติความรุนแรงและสร้างความสามัคคีในชาติ

 

ผู้เชี่ยวชาญเสนอแนะว่า การแก้ไขปัญหาความรุนแรงทางการเมืองในระยะยาวจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ สื่อมวลชน และภาคประชาสังคม ในการส่งเสริมการพูดคุยอย่างสร้างสรรค์และลดความขัดแย้งในสังคมอเมริกัน