"กมลา แฮร์ริส" เจอศึกหนักเมื่อสัญญาณเตือนเศรษฐกิจสหรัฐฯถดถอย

06 ส.ค. 2567 | 01:00 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ก.ย. 2567 | 04:20 น.

"กมลา แฮร์ริส" กำลังพยายามพยายามต่อสู้กับการโจมตีของ โดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับผลงานทางเศรษฐกิจของรัฐบาล โจ ไบเดน ขณะที่เธออาจเผชิญข่าวร้ายเมื่อสัญญาณเตือนเศรษฐกิจสหรัฐฯ ถดถอย

KEY

POINTS

  • กมลา แฮร์ริส ต่อสู้กับการโจมตีของโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับผลงานทางเศรษฐกิจของไบเดน โดยพยายามใช้ประเด็นเศรษฐกิจและค่าครองชีพเป็นจุดโจมตี
  • มีหลายสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความเสี่ยงของภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ เช่น การจ้างงานที่ลดลง อัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้น 
  • เศรษฐกิจอาจไม่ได้กำลังจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในทันที แต่สัญญาณต่างๆในช่วงสามเดือนก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี อาจส่งผลต่อโอกาสชนะเลือกตั้งของแฮร์ริส 

นักลงทุนทั่วโลกกำลังเตรียมรับมือกับความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้นต่อไป หลังจากที่มีความกลัวว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่กำลังแข็งแกร่งนี้อาจกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยส่งผลให้ตลาดหุ้นร่วงลง

กระทรวงแรงงานสหรัฐ (Bureau of Labor Statistcs) เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-Farm Employment Change) เพิ่มขึ้นเพียง 114,000 ตำแหน่งในเดือนกรกฎาคม ต่ำกวาตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 177,000 ตำแหน่ง และลดลงจากระดับ 179,000 ตำแหน่งในเดือนมิถุนายน

ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงในวันที่ 5 สิงหาคม 2024

เช่นเดียวกับ อัตราการว่างงาน (Unemployment Rate) ที่ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.3% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2564 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์และอัตราการว่างงานในเดือนมิถุนายนที่ระดับ 4.1% ข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญภาวะถดถอย

สัญญาณเตือนสำหรับ กมลา แฮร์ริส

ในขณะที่ กมลา แฮร์ริส พยายามต่อสู้กับการโจมตีของ โดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับผลงานทางเศรษฐกิจของรัฐบาล โจ ไบเดน ในปัจจุบัน

ทรัมป์  เคยโต้แย้งหลายประเด็นเพื่อลดบทบาทของ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยพรรครีพับลิกันยังคงมีความหวังว่าความผิดหวังทางเศรษฐกิจของผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะช่วยให้ทรัมป์ได้รับชัยชนะในเดือนพฤศจิกายนนี้ได้ และยังมีประเด็นค่าครองชีพเฉพาะเจาะจงที่ทรัมป์ต้องการใช้ประโยชน์เป็นพิเศษ โฆษณา ที่ทีมหาเสียงของทรัมป์

 

 

ในขณะที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีเหลือเวลาอีกเพียงสามเดือน เศรษฐกิจไม่ได้กำลังจะตกอยู่ในภาวะถดถอยในทันที แต่สัญญาณที่บ่งชี้ว่าครัวเรือนกำลังควบคุมการใช้จ่ายของถือเป็นข่าวร้ายสำหรับผู้ที่หวังจะเป็นประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตอย่าง กมลา แฮร์ริส 

สัญญาณเตือนภัย "เศรษฐกิจโลก" ดังขึ้น

ตลาดการเงินเดิมพันอย่างหนักว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะสลัดผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นได้ ตัวเลข GDP ล่าสุด ซึ่งแสดงการเติบโตรายปีใกล้ 3% แต่รอยร้าวในตลาดแรงงานกระตุ้นความกังวลว่าเศรษฐกิจอาจกำลังมุ่งหน้าสู่การถดถอยการลดลง 12% ของดัชนีนิกเกอิของญี่ปุ่นส่วนใหญ่เกิดจากความกังวลว่าเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกอาจกำลังชะลอตัวลงอย่างรวดเร็ว

กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ โบกมือขณะออกเดินทางกลับวอชิงตัน

"กฎของซาห์ม"

ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีกฎเกณฑ์ที่รู้จักกันในชื่อ “กฎของซาห์ม” หรือ “Sahm’s Rule” ใช้สำหรับประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อยู่ในภาวะถดถอยหรือไม่ ตั้งชื่อตามนักเศรษฐศาสตร์ คลอเดีย ซาห์ม ตัวชี้วัดนี้สามารถประเมินภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐได้อย่างแม่นยำตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1970 เป็นต้นมา

สำหรับ กฎของซาห์ม ระบุว่า เมื่อค่าเฉลี่ยของอัตราการว่างงานย้อนหลัง 3 เดือน ลบด้วยอัตราการว่างงานต่ำที่สุดในรอบ 12 เดือน หากส่วนเกิน 0.5% ซึ่งหมายถึงเศรษฐกิจกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย 

รายงานการว่างงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจากสำนักงานสถิติแรงงานแสดงให้เห็นว่ากฎซาห์มกำลังจะถูกใช้ ตามที่บริษัทที่ปรึกษา Capital Economics ชี้ให้เห็น กฎนี้จะเป็นจริงในเดือนหน้า เว้นแต่ว่าอัตราการว่างงานจะลดลง แต่ก็มีนักเศรษฐศาสตร์บางคนเตือนไม่ให้ให้ความสำคัญกับกฎซาห์มมากเกินไป

ในประวัติศาสตร์กฎซาห์มเป็นตัวทำนายที่ดีสำหรับภาวะถดถอยของสหรัฐฯ ที่กำลังจะมาถึง และถูกอ้างอิงอย่างกว้างขวางในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาโดยผู้ที่โต้แย้งกล่าวว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ปล่อยเวลานานเกินไปก่อนที่จะลดอัตราดอกเบี้ย มีการคาดการณ์ว่า เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจไม่รอจนถึงการประชุมตามกำหนดครั้งต่อไปในเดือนหน้า และอาจประกาศลดดอกเบี้ยฉุกเฉินในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ที่มา