แรงกระแทกจากการโจมตีทางอากาศเมื่อเย็นวันศุกร์ที่สังหารอดีตผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ แผ่ขยายไปทั่วทั้งภูมิภาค และอิสราเอลยังคงโจมตีเป้าหมายในเลบานอน อย่างต่อเนื่อง
อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ได้ประกาศไว้อาลัยอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 5 วันในวันเสาร์ที่ผ่านมา และเรียกร้องให้มีการประชุมด่วนขององค์การความร่วมมืออิสลาม ซึ่งมีสมาชิก 57 ประเทศ นอกจากนี้ อิหร่านยังเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติประชุมเกี่ยวกับการกระทำของอิสราเอลในเลบานอนและทั่วภูมิภาค
กองกำลังความมั่นคงของอิสราเอลยังได้รับการเพิ่มระดับการเฝ้าระวังสูงสุดสำหรับการตอบโต้ที่อาจเกิดขึ้น โดยผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ภูมิภาคนี้กำลังเผชิญกับสถานการณ์หลายอย่างหลังจากการสังหาร ซึ่งรวมถึงความเสี่ยงของสงครามที่ขยายตัวซึ่งอาจดึง อิหร่านซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์เข้าสู่ความขัดแย้งโดยตรงกับอิสราเอล
จับตาการโต้ตอบของอิหร่าน
ผู้นำโลกคนอื่นๆ แสดงความกังวลเกี่ยวกับการลอบสังหารนาสรัลเลาะห์ เลขาธิการสหประชาชาติ อันโตนิโอ กูเตร์เรส กล่าวว่ารู้สึกกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับการทวีความรุนแรงในเลบานอน และร่วมกับผู้นำคนอื่นๆ เตือนถึงอันตรายของความไม่มั่นคง
ต้องยอมรับว่าทุกสายตาจะจับจ้องไปที่การตอบสนองของอิหร่าน ซึ่งต้องเผชิญกับทางเลือกที่อิหร่านพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้นำฝ่ายปฏิรูปคนใหม่ของพวกเขาที่ไม่ต้องการที่จะทำแบบนั้น
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า หากอิหร่านเพียงแค่ประณามอิสราเอลอย่างโกรธเคือง สำหรับการทำลายแกนกลางของแกนต่อต้านซึ่งอิหร่านได้สร้างขึ้นอย่างยากลำบากมานานหลายปี หรือเรียกร้องให้คนอื่นๆ ดำเนินการที่ไม่ได้ระบุรายละเอียด คำถามก็คือ ความน่าเชื่อถือของอิหร่านก็จะตกอยู่ในอันตรายหรือไม่
แต่แนวทางปฏิบัตินิยมอาจทำให้อิหร่านแนะนำให้ฮิซบอลเลาะห์ ยอมรับความสูญเสียและยอมรับการหยุดยิงที่ไม่นำไปสู่การหยุดยิงในฉนวนกาซา ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ฮิซบอลเลาะห์ประกาศไว้
หากอิหร่านตอบโต้อิสราเอลโดยตรง การกระทำดังกล่าวจะต้องมีความหมาย เพราะอิหร่านรู้ดีว่าจะต้องเผชิญหน้ากับกองทัพที่พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพด้านเทคโนโลยีและข่าวกรองที่เหนือกว่าอย่างมาก รวมทั้งข่าวกรองของอิสราเอล ได้แทรกซึมเข้าไปลึกในกลุ่มฮิซบอลเลาะห์อย่างชัดเจน และอาจทำเช่นเดียวกันในอิหร่านด้วย
ประธานาธิบดีคนใหม่ มาซูด เปเซชเคียน ซึ่งได้รับการเลือกตั้งด้วยนโยบายยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ ด้วยการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับฝ่ายตะวันตก การเสียชีวิตของนาสรัลเลาะห์เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด
รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านพิ่งใช้เวลาทั้งสัปดาห์ในนิวยอร์กโดยเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ โดยได้พบปะกับนักการเมืองยุโรป เช่น รัฐมนตรีต่างประเทศของเยอรมนี และ รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษ เพื่อพยายามโน้มน้าวให้เปิดการเจรจากันใหม่เพื่อฟื้นฟูข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ลงนามในปี 2015
วันอันท้าทายข้างหน้าจะมาถึง
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล กล่าวว่า การสังหารนาสรัลเลาะห์เป็นจุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์ที่จะเปลี่ยนสมดุลอำนาจในตะวันออกกลางได้ แม้ว่าเขาจะเตือนว่าวันอันท้าทายข้างหน้าจะมาถึงก็ตาม
ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐกล่าวว่า การลอบสังหารนาสรัลเลาะห์เป็น "มาตรการยุติธรรมสำหรับเหยื่อจำนวนมาก รวมถึงชาวอเมริกัน ชาวอิสราเอล และพลเรือนชาวเลบานอนหลายพันคน"
ขณะที่เขาสั่งให้กระทรวงกลาโหมเสริมจุดยืนด้านการป้องกันของสหรัฐในภูมิภาค ไบเดนยังกล่าวอีกว่าสหรัฐสนับสนุนสิทธิของอิสราเอลในการป้องกันตนเองจากกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ฮามาส ฮูตี และกลุ่มก่อการร้ายอื่น ๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านอย่างเต็มที่
เขากล่าวเสริมว่า ในฉนวนกาซาสหรัฐได้พยายามบรรลุข้อตกลงที่ได้รับการสนับสนุนจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับการหยุดยิงและการปล่อยตัวประกัน ในเลบานอน โดยได้เจรจาข้อตกลงที่จะส่งผู้คนกลับบ้านอย่างปลอดภัยในอิสราเอลและเลบานอนตอนใต้ ถึงเวลาแล้วที่ข้อตกลงเหล่านี้จะต้องปิดฉากลง เพื่อขจัดภัยคุกคามต่ออิสราเอล และเพื่อให้ภูมิภาคตะวันออกกลางโดยรวมมีเสถียรภาพมากขึ้น