ตะวันออกกลางเดือด อิสราเอลสังหารผู้นำฮิซบอลเลาะห์
โลกจับตาหลังอิสราเอลสังหาร "ฮัสซัน นาสรัลเลาะห์" ผู้นำฮิซบอลเลาะห์ ต่อผลกระทบที่รุนแรงและระดับความขัดแย้งต่อสถานการณ์ในตะวันออกกลาง
กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน แถลงว่า นายฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ถูกสังหารแล้ว โดยเป็นการยืนยันการเสียชีวิตของเขา หลังจากที่กองทัพอิสราเอล ระบุว่าได้กำจัดเขาจากการโจมตีทางอากาศในกรุงเบรุต
การเสียชีวิตของเขาถือเป็นการโจมตีที่รุนแรงต่อกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการโจมตีอย่างหนักของอิสราเอล นอกจากนี้ยังเป็นการโจมตีครั้งใหญ่ต่ออิหร่าน เพราะทำให้พันธมิตรที่มีอิทธิพลซึ่งช่วยสร้างกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ให้กลายเป็นแกนหลักกลุ่มพันธมิตรของเตหะรานในโลกอาหรับต้องสูญเสียไป
การที่อิสราเอลอ้างว่าผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้ถูกลอบสังหารในการโจมตีสำนักงานใหญ่ใต้ดินครั้งใหญ่ในเขตชานเมืองทางตอนใต้ของเบรุตถือเป็นเหตุการณ์ที่น่าตกใจที่สุดในรอบเกือบหนึ่งปีของสงครามระหว่างกลุ่มนักรบชีอะห์กับอิสราเอล
ทันทีหลังจากการกล่าวสุนทรพจน์ของนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ที่สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติซึ่งดูเหมือนจะข่มขู่อิหร่านโดยตรง รวมทั้งสัญญาที่จะย่ำยีกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ต่อไป
ในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง นักข่าวชาวอิสราเอลที่มีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานด้านการป้องกันและความมั่นคงของประเทศได้ออกมาเผยว่า ฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ คือเป้าหมาย และเขาอยู่ในบริเวณสำนักงานใหญ่ในช่วงเวลาที่เกิดการโจมตี เมื่อเช้าวันเสาร์ และกองทัพอิสราเอลกล่าวว่าเขาถูกสังหารแล้ว
การสังหารหัวหน้าฮิซบอลเลาะห์ทำให้โลก “ปลอดภัยขึ้น”
ดาเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอล กล่าวถึง ฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ หัวหน้ากลุ่มฮิซบอลเลาะห์ว่าเป็นหนึ่งใน “ศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” ของอิสราเอล และอ้างว่าการสังหารเขาทำให้โลก “ปลอดภัยขึ้น”
ฮิซบอลเลาะห์กล่าวในแถลงการณ์ว่า จะเดินหน้าต่อสู้กับอิสราเอลต่อไปเพื่อสนับสนุนฉนวนกาซาและปาเลสไตน์ และเพื่อปกป้องเลบานอนและประชาชนที่มั่นคงและมีเกียรติของประเทศ แต่ไม่ได้กล่าวถึงว่า นาสรัลเลาะห์ ถูกสังหารอย่างไร
ขณะที่สถานีโทรทัศน์อัลมานาร์ของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์เริ่มออกอากาศบทอัลกุรอานหลังจากมีการประกาศการเสียชีวิตของเขา
กองทัพอิสราเอลกล่าวก่อนหน้านี้ว่า นาสรัลเลาะห์ถูกกำจัดแบบพุ่งเป้า เมื่อวันศุกร์ที่สำนักงานใหญ่ใต้ดินของกลุ่มซึ่งอยู่ใต้ตึกที่พักอาศัยในดาฮีเยห์ ซึ่งเป็นชานเมืองทางตอนใต้ของเบรุตที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ รายงานระบุว่าเขาถูกสังหารพร้อมกับผู้นำระดับสูงอีกคนของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์และผู้บังคับบัญชาคนอื่นๆ
สถานการณ์ที่ตึงเครียดมากขึ้นเกิดความกลัวว่าความขัดแย้งอาจลุกลาม
ข้อเท็จจริงที่ว่าการโจมตีครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญอย่างยิ่งได้รับการยืนยันอย่างรวดเร็วในเวลาไม่นานหลังจากที่เกิดขึ้นจากแถลงการณ์หลายฉบับของอิสราเอลซึ่งรวมถึงภาพที่อ้างว่าเห็น เบนจามิน เนทันยาฮู สั่งโจมตีทางโทรศัพท์จากห้องพักของเขาในนิวยอร์ก
การเสียชีวิตของนาสรัลเลาะห์ถือเป็นการโจมตีครั้งสำคัญที่สุดในช่วง 2 สัปดาห์ที่เลวร้ายสำหรับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ต้องเผชิญกับการโจมตีอุปกรณ์สื่อสารไร้สายที่สมาชิกใช้เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ อิสราเอลยังเพิ่มการโจมตีทางอากาศซึ่งสังหารผู้บัญชาการไปหลายรายและโจมตีพื้นที่ต่างๆ ทั่วเลบานอน
การโจมตีทางอากาศในวันศุกร์ที่ดาฮีเยห์ทำให้กรุงเบรุตสั่นสะเทือน แหล่งข่าวความมั่นคงในเลบานอนกล่าวว่าการโจมตีดังกล่าว ซึ่งเป็นการระเบิดอย่างรุนแรงและต่อเนื่องกันอย่างรวดเร็ว ได้ทิ้งหลุมอุกกาบาตที่มีความลึกอย่างน้อย 20 เมตร (65 ฟุต) ไว้
หลังจากนั้นในวันเสาร์ ก็มีการโจมตีทางอากาศเพิ่มเติมในดาฮีเยห์และพื้นที่อื่นๆ ของเลบานอน การระเบิดครั้งใหญ่ทำให้ท้องฟ้ายามค่ำคืนสว่างไสว และการโจมตีอื่นๆ ในพื้นที่ดังกล่าวในตอนเช้า ควันลอยฟุ้งไปทั่วเมือง
กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ยังคงยิงจรวดข้ามพรมแดนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีเสียงไซเรนดังขึ้น และทำให้ประชาชนต้องวิ่งหนีเข้าไปหลบภัยในอิสราเอล ระบบป้องกันขีปนาวุธของอิสราเอลสามารถสกัดขีปนาวุธบางส่วนได้ และไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
สถานการณ์ที่ตึงเครียดมากขึ้นทำให้เกิดความกลัวว่าความขัดแย้งอาจลุกลามเกินการควบคุม ซึ่งอาจดึงดูดอิหร่านซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ รวมถึงสหรัฐฯ ด้วย ขณะที่ประชาชนหนีออกจากดาฮีเยห์ โดยไปหาที่พักพิงในตัวเมืองเบรุตและพื้นที่อื่นๆ ของเมือง
สิ่งที่ชัดเจนกว่าที่เคยหลังจากที่อิสราเอลเพิ่มความรุนแรงต่อ กลุ่มฮิซบอลเลาะห์หลายครั้งในเดือนนี้ รวมถึงการสังหารเป้าหมายและการระเบิดเครื่องรับส่งวิทยุและวิทยุสื่อสารที่ดัดแปลงแล้วจำนวนหลายพันเครื่องที่ส่งให้กับกลุ่ม ก็คือ กฎเกณฑ์พื้นฐานที่ใช้ควบคุมสมดุลในการยับยั้งระหว่างสองฝ่ายนั้นถูกยกเลิกไป
ในช่วงหลายเดือนแรกของความขัดแย้งกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม หนึ่งวันหลังจากการโจมตีของกลุ่มฮามาสจากฉนวนกาซา เป็นที่เข้าใจกันว่าอิสราเอลจะไม่ลอบสังหารสมาชิกระดับสูงที่สุดของกลุ่มก่อการร้าย แต่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมากลับแตกต่างออกไป
เนื่องจากขอบเขตทางภูมิศาสตร์ของการโจมตีทั้งสองฝ่ายได้ขยายลึกเข้าไปในเลบานอนและอิสราเอลมากขึ้น การปฏิบัติการของอิสราเอลจึงมุ่งเป้าไปที่ผู้บัญชาการกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่มีอาวุโสมากขึ้นเรื่อยๆ นอกเหนือไปจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในการโจมตีภาคพื้นดินในเลบานอนตอนใต้
ตั้งแต่ต้นปีนี้ นักการทูตและนักวิเคราะห์ในภูมิภาคได้แนะนำว่าเป้าหมายหนึ่งของการโต้ตอบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ผ่านทางทูตพิเศษของสหรัฐฯ และคนกลางของกลุ่มนั้นมุ่งเน้นไปที่การรักษาความเข้าใจว่าบุคคลที่มีอาวุโสที่สุดในกลุ่มก่อการร้ายจะไม่ตกเป็นเป้าหมาย
ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางฝ่ายอิสราเอลมีหลักฐานเพิ่มมาก ว่ามีการกล่าวหาว่าเหตุการณ์รุนแรงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
หน่วยงานความมั่นคงของประเทศได้อ้างว่าแผนการของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่มุ่งเป้าไปที่บุคคลระดับสูงของอิสราเอลนั้นไม่ประสบผลสำเร็จ ขณะเดียวกันก็มีการชี้แนะด้วยว่าการเพิ่มระดับความรุนแรงของอิสราเอลนั้นมีจุดมุ่งหมายเพื่อต่อต้านแผนการของกลุ่มก่อการร้ายที่จะเปิดฉากโจมตีครั้งใหญ่
โลกจับตาผลกระทบจากการโจมตี
แม้ว่าอาจต้องใช้เวลาหลายวันในการเข้าใจผลกระทบทั้งหมดจากการโจมตี แต่เนทันยาฮูและผู้นำกองทัพของเขาได้เสี่ยงครั้งใหญ่ ไม่ใช่แค่กับสถานการณ์ทางตอนเหนือของอิสราเอลเท่านั้น ซึ่งมีผู้ต้องอพยพนับหมื่นคนจากการสู้รบ แต่ยังรวมถึงภูมิภาคที่กว้างขึ้น และกับความสัมพันธ์ของประเทศกับพันธมิตรระหว่างประเทศด้วย
การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามระหว่างประเทศที่นำโดยสหรัฐฯ และฝรั่งเศสในการเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยการหยุดยิง 3 สัปดาห์กับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
ที่สำคัญที่สุด การโจมตีครั้งนี้ถือเป็นการท้าทายเตหะรานโดยตรง ซึ่งนาสรัลเลาะห์ถือเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ระดับภูมิภาคที่สำคัญที่สุดของเตหะราน โดยขีปนาวุธจำนวนหลายหมื่นลูกที่อิหร่านส่งมาให้นั้นเล็งไปที่อิสราเอลนั้นถูกมองว่าเป็นอาวุธยุทธศาสตร์สำคัญที่ช่วยป้องกันการโจมตีอิหร่านจากอิสราเอลมาช้านาน
ตอนนี้การเดิมพันทั้งหมดถูกยกเลิกแล้ว แม้ว่าอิสราเอลจะอ้างโดยไม่เปิดเผยชื่อ ว่าอิสราเอลได้ทำลายคลังขีปนาวุธของฮิซบอลเลาะห์ไปแล้วถึง 50% จากคลังทั้งหมดกว่า 100,000 ลูก
พันธมิตรอิหร่านอื่นๆ รวมทั้งในอิรัก ซีเรีย และเยเมน ก็มีขีปนาวุธและโดรนของตนเอง ซึ่งแม้จะไม่สำคัญเท่าของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ แต่ก็สามารถนำมาใช้ได้ และไม่จำเป็นต้องใช้กับอิสราเอลเท่านั้น แต่รวมถึงเป้าหมายของสหรัฐฯ ด้วย
จับตาท่าทีอิหร่านสามารถยอมรับการโจมตี ?
คำถามที่สำคัญที่สุดว่า อิหร่านสามารถยอมรับการโจมตีนาสรัลเลาะห์ได้หรือไม่ หรืออิหร่านอาจเผชิญกับความขัดแย้งที่กว้างขวางขึ้นได้หรือไม่ และการโจมตีครั้งนี้เป็นความตั้งใจของอิสราเอลเพื่อกำหนดเงื่อนไขในการโจมตีอิหร่านหรือไม่
ภายใต้ความกังวลดังกล่าว สถานทูตอิหร่านประจำกรุงเบรุตได้ออกมาประณามการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล โดยกล่าวก่อนที่อิสราเอลจะอ้างว่านายนาสรัลเลาะห์ถูกสังหารแล้วโดยระบุว่า การโจมตีครั้งนี้ เป็นการเพิ่มระดับความรุนแรงที่เปลี่ยนกฎของเกม และอิสราเอลจะต้องลงโทษอย่างเหมาะสม”
อ้างอิงข้อมูล