“อิหร่าน” ประกาศปฏิบัติการโจมตี"อิสราเอล"ยุติแล้ว-แต่โลกกลัวสงคราขยายวง

2 ตุลาคม 2567 รอยเตอร์ รายงานว่า อิหร่านประกาศเมื่อช่วงเช้าตรู่วันนี้ว่า การโจมตีด้วยขีปนาวุธใส่อิสราเอลได้สิ้นสุดลงแล้ว เว้นแต่จะมีการยั่วยุเพิ่มเติม

"ปฏิบัติการของเราสิ้นสุดลงแล้ว เว้นแต่ว่ารัฐบาลอิสราเอลจะตัดสินใจยั่วยุให้เกิดการตอบโต้เพิ่มเติม ในกรณีนั้น การตอบสนองของเราจะรุนแรงและทรงพลังมากขึ้น" อับบาส อารักชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน โพสต์ข้อความบน X เมื่อช่วงเช้าตรู่วันพุธ

อิหร่านอธิบายว่าการโจมตีนี้เป็นการป้องกันตัวและมุ่งเป้าไปที่สถานที่ทางทหารของอิสราเอลเท่านั้น สำนักข่าวของรัฐอิหร่านรายงานว่าฐานทัพอิสราเอล 3 แห่งถูกโจมตี

กองกำลังของอิหร่านใช้ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง Fattah เป็นครั้งแรกเมื่อวันอังคาร และขีปนาวุธ 90% ของพวกเขาโจมตีเป้าหมายในอิสราเอลได้สำเร็จ ตามที่กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติกล่าว

ขณะที่อิสราเอลได้เปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ IRON DOME เพื่อต่อต้านขีปนาวุธของอีหร่าน ซึ่งส่วนใหญ่ถูกสกัดกั้น" โดยพลเรือตรีแดเนียล ฮาการี ของอิสราเอลกล่าวในวิดีโอบน X และเพิ่มเติมว่า: "การโจมตีของอิหร่านเป็นการยกระดับที่รุนแรงและอันตราย"

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลสาบานว่าจะตอบโต้ "อิหร่านทำผิดพลาดครั้งใหญ่คืนนี้ - และจะต้องชดใช้สำหรับมัน" เขากล่าวในช่วงต้นของการประชุมฉุกเฉินคณะรัฐมนตรีความมั่นคงทางการเมืองเมื่อดึกวันอังคาร ตามแถลงการณ์

คณะเสนาธิการกองทัพอิหร่านกล่าวในแถลงการณ์ที่เผยแพร่โดยสื่อของรัฐว่า การตอบโต้ใดๆ ของอิสราเอลจะถูกตอบโต้ด้วย "การทำลายล้างอย่างกว้างขวาง" ต่อโครงสร้างพื้นฐานของอิสราเอล นอกจากนี้ยังกล่าวว่าจะโจมตีสินทรัพย์ในภูมิภาคของพันธมิตรอิสราเอลที่เข้ามาเกี่ยวข้อง

ความกลัวที่ว่าอิหร่านและสหรัฐฯ อาจถูกดึงเข้าสู่สงครามระดับภูมิภาคได้เพิ่มขึ้น พร้อมกับการโจมตีเลบานอนที่เพิ่มขึ้นของอิสราเอลในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงการเริ่มปฏิบัติการภาคพื้นดินที่นั่นเมื่อวันจันทร์ที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา

ฮาการีของอิสราเอลกล่าวว่าพื้นที่ตอนกลางและตอนใต้ของอิสราเอลถูกโจมตีอย่างจำกัด วิดีโอที่เผยแพร่โดยกองทัพแสดงให้เห็นโรงเรียนในเมืองกาเดรา ตอนกลางได้รับความเสียหายอย่างหนักจากขีปนาวุธของอิหร่าน

เรือรบของกองทัพเรือสหรัฐฯ ยิงขีปนาวุธสกัดกั้นประมาณ 12 ลูกเพื่อต่อต้านขีปนาวุธอิหร่านที่มุ่งหน้าไปยังอิสราเอล กระทรวงกลาโหมสหรัฐระบุ

อังกฤษกล่าวว่ากองกำลังของตนมีส่วนร่วม "ในความพยายามที่จะป้องกันการยกระดับความขัดแย้งเพิ่มเติมในตะวันออกกลาง" โดยไม่ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ แสดงการสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่ออิสราเอล และอธิบายว่าการโจมตีของอิหร่าน "ไร้ประสิทธิภาพ" รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต สนับสนุนจุดยืนของไบเดนและกล่าวว่าสหรัฐฯ จะไม่ลังเลที่จะปกป้องผลประโยชน์ของตนต่ออิหร่าน

"เราจะลงมือ อิหร่านจะรู้สึกถึงผลลัพธ์จากการกระทำของพวกเขาในไม่ช้า การตอบโต้จะเจ็บปวด" แดนนี ดานอน เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติกล่าวกับผู้สื่อข่าว

โฆษกทำเนียบขาว เจค ซัลลิแวน สัญญาเช่นกันว่าจะมี "ผลลัพธ์ร้ายแรง" สำหรับอิหร่าน โดยสหรัฐจะทำงานร่วมกับอิสราเอลเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นเช่นนั้น

ซัลลิแวนไม่ได้ระบุว่าผลลัพธ์เหล่านั้นอาจเป็นอะไร แต่เขาไม่ได้เรียกร้องให้อิสราเอลยับยั้งชั่งใจเหมือนที่สหรัฐ ทำในเดือนเมษายนเมื่ออิหร่านดำเนินการโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธต่ออิสราเอล

กระทรวงกลาโหมสหรัฐ ระบุว่าการโจมตีทางอากาศของอิหร่านเมื่อวันอังคารมีขนาดใหญ่กว่าการโจมตีเมื่อเดือนเมษายนประมาณสองเท่า

อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติประณามสิ่งที่เขาเรียกว่า "การยกระดับครั้งแล้วครั้งเล่า" โดยกล่าวว่า: "สิ่งนี้ต้องหยุด เราต้องการหยุดยิงอย่างเร่งด่วน"

ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสกล่าวในแถลงการณ์ว่าเขาประณามอย่างรุนแรงต่อการโจมตีอิสราเอลครั้งใหม่ของอิหร่าน พร้อมเรียกร้องให้ฮิซบอลลาห์ยุติการก่อการร้ายต่ออิสราเอลและประชากร แต่ยังปรารถนาให้อธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของเลบานอนได้รับการฟื้นฟูอย่างเคร่งครัดตามข้อมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ

โจเซป บอร์เรลล์ หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรปยังเรียกร้องให้มีการหยุดยิงในภูมิภาคทันที "วงจรอันตรายของการโจมตีและการตอบโต้เสี่ยงที่จะ... ลุกลามออกไปนอกการควบคุม" เขาโพสต์บน X

การตอบโต้ใดๆ ของอิสราเอลต่อการโจมตีด้วยขีปนาวุธเมื่อวันอังคารจะถูกตอบโต้ด้วย "การทำลายล้างอย่างกว้างขวาง" ต่อโครงสร้างพื้นฐานของอิสราเอล คณะเสนาธิการกองทัพของอิหร่านกล่าวในแถลงการณ์ที่เผยแพร่โดยสื่อของรัฐบาลอิหร่าน พร้อมระบุว่าจะโจมตีสินทรัพย์ในภูมิภาคของพันธมิตรอิสราเอลที่เข้ามามีส่วนร่วม

นายกรัฐมนตรีแรชิ ซูนัค ของอังกฤษได้พูดคุยกับผู้นำของเยอรมนีและฝรั่งเศส และพวกเขาเห็นพ้องกันถึงความจำเป็นในการยับยั้งชั่งใจจากทุกฝ่าย

อัล จาซีรา รายงานว่า จากการโจมตีกาซาของอิสราเอลตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตในกาซา อย่างน้อย 41,638 คน และบาดเจ็บ 96,460 คน ในอิสราเอล มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,139 คน จากการโจมตีนำโดยฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 และมีผู้ถูกจับเป็นตัวประกันมากกว่า 200 คน