ช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี “เซอร์ไพรส์เดือนตุลาคม” อาจใกล้เข้ามาแล้ว ฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งของทรัมป์ในปี 2016 ทราบดีว่าข่าวใหญ่ที่คาดไม่ถึงเกี่ยวกับผู้สมัครรับเลือกตั้งในเดือนตุลาคมอาจทำให้แคมเปญหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายต้องสะดุดลง และท้ายที่สุดก็อาจส่งผลต่อผลการเลือกตั้งได้
ในวงการการเมืองสหรัฐฯ มีคำศัพท์ที่เรียกว่า “October Surprise” หรือ "เซอร์ไพรส์เดือนตุลาคม" ซึ่งหมายถึงเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดซึ่งเกิดขึ้นในเดือนตุลาคม เพียงหนึ่งเดือนก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายน เหตุการณ์นี้มีศักยภาพที่จะส่งผลกระทบต่อผลการเลือกตั้งอย่างมีนัยสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่วางแผนไว้หรือเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดก็ตาม
ในช่วงเริ่มต้นเดือนตุลาคม 2024 การเมืองสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับเหตุการณ์หลายอย่างที่เข้าข่าย “October Surprise” ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีระหว่างตัวแทนพรรครีพับลิกัน โดนัลด์ ทรัมป์ และตัวแทนพรรคเดโมแครต กมลา แฮร์ริส
ซึ่ง Stephen Collinson ผู้สื่อข่าวการเมืองอาวุโสของ CNN ได้รวบรวมและวิเคราะห์เหตุการณ์สำคัญที่อาจส่งผลต่อการเลือกตั้ง
วิกฤตการณ์ในตะวันออกกลาง
สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและอิสราเอลที่ลุกลามอาจลากสหรัฐฯ เข้าสู่สงครามที่เกี่ยวข้องกับภูมิภาคนี้ นอกจากนี้ วิกฤตพลังงานที่อาจเกิดขึ้นตามมาจะทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น ซึ่งจะกระทบความเชื่อมั่นในรัฐบาลของแฮร์ริส
การประท้วงหยุดงานของสหภาพแรงงานท่าเรือ
การหยุดงานของสหภาพแรงงานท่าเรือที่มีสมาชิกเกือบ 50,000 คน ส่งผลให้การขนส่งสินค้าชะงักงัน สถานการณ์นี้เพิ่มแรงกดดันต่อฝ่ายรัฐบาลไบเดนและแฮร์ริส ที่ต้องหาทางจัดการให้เกิดความสมดุลระหว่างการสนับสนุนแรงงานและการป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภคที่เผชิญปัญหาเงินเฟ้อ
เฮอริเคนเฮเลน
พายุเฮเลนที่รุนแรงเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 189 คน และทำให้รัฐบาลต้องแสดงทักษะในการจัดการภัยพิบัติ หากทำผิดพลาด อาจสร้างหายนะทางการเมืองที่คล้ายกับเฮอริเคนแคทรีนาในปี 2005
คดีแทรกแซงการเลือกตั้งปี 2020 ของทรัมป์
คำฟ้องใหม่จากอัยการพิเศษแจ็ก สมิธ ทำให้คดีแทรกแซงการเลือกตั้งของทรัมป์กลับมาเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง ซึ่งอาจทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งตั้งคำถามถึงความเหมาะสมของทรัมป์ในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
ความสัมพันธ์ระหว่างเหตุการณ์และผู้สมัคร
เหตุการณ์เหล่านี้ มีทั้งความท้าทายและโอกาสที่อาจเกิดขึ้นกับทั้งสองผู้สมัคร โดยที่แฮร์ริสต้องเผชิญกับบททดสอบทั้งทางเศรษฐกิจ การเมือง และมนุษยธรรม หากฝ่ายรัฐบาลจัดการผิดพลาด ขณะที่ทรัมป์ก็พยายามใช้สถานการณ์นี้เพื่อแสดงให้เห็นว่าการปกครองของเขาในอดีตมีประสิทธิภาพกว่า โดยเฉพาะในการหลีกเลี่ยงสงครามและวิกฤตการณ์ทางการเมืองทั้งในยุโรปและตะวันออกกลาง
ทรัมป์ยังชี้ให้เห็นว่า ภายใต้การดำรงตำแหน่งของเขา โลกไม่มีสงครามใหญ่ และการเงินสหรัฐฯ ไม่ประสบปัญหาเงินเฟ้อสูงเช่นปัจจุบัน เขาโพสต์ในโซเชียลเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมว่า “มองดูโลกในปัจจุบัน มองดูขีปนาวุธในตะวันออกกลางและสงครามรัสเซีย/ยูเครน ทุกสิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงที่ผมเป็นประธานาธิบดี”
ต้นกำเนิดของ “October Surprise”
คำว่า “October Surprise” มีต้นกำเนิดย้อนกลับไปในปี 1972 เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม เฮนรี คิสซิงเจอร์ ที่ปรึกษาความมั่นคงของประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ประกาศว่า สันติภาพในสงครามเวียดนาม "ใกล้เข้ามาแล้ว" ซึ่งเป็นการประกาศที่สร้างความหวังให้กับประชาชนสหรัฐ และช่วยให้นิกสันชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย คำว่า "October Surprise" จึงถูกนำมาใช้ในวงการการเมืองสหรัฐฯ นับแต่นั้นมา
ในปัจจุบัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเดือนตุลาคมยังคงมีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ในตะวันออกกลาง การประท้วงแรงงาน หรือคดีการเมืองที่ยืดเยื้อ เหล่านี้ล้วนมีบทบาทสำคัญในการตัดสินชะตาผู้นำคนใหม่ของสหรัฐ
แหล่งข้อมูลอ้างอิง