*** ยอดผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศไทยยังคงเป็นตัวเลขสูงลิ่วมากกว่า 1.5 หมื่นคนต่อวัน ผู้ที่เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นมามาก และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดยั้งผู้ติดเชื้อรายวันได้ มีรายงานผู้เสียชีวิตล้มลงกลางถนน ข้างทางฟุตบาท กระทั่งมีรายงานเตาเผาศพระเบิดเสียหาย ล้วนแล้วแต่เป็นความวิตกกังวลและบรรยากาศขมุกขมัวปกคลุมประเทศไทยให้อยู่ในอาการเศร้าสร้อย โดยเฉพาะในครอบครัวของผู้สูญเสียจากโควิด ที่ไม่แม้กระทั่งได้ดูใจหรือสั่งเสียในบางราย
*** แพทย์ พยาบาลด่านหน้าทำงานหนักจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน อาการเหนื่อยล้าถึงขีดสุดเริ่มเกิดขึ้นกับบางราย บางโรงพยาบาล เตียงในโรงพยาบาลในกทม.เต็มแทบทุกแห่ง บางที่ประกาศงดรับผู้ป่วยแม้กระทั่งแผนกฉุกเฉิน แพทย์ พยาบาลด่านหน้าเริ่มส่งเสียงดังขึ้นๆ ว่ารับไม่ไหวแล้ว บางรายติดเชื้อขณะปฏิบัติงานกลายเป็นผู้ป่วยเสียเอง นั่นทำให้กำลังแพทย์ลดลง เพราะคนรอบข้างก็ต้องกักตัวไปด้วย ปิดกันไปทีละวอร์ด
*** เมื่อเตียงในกทม.เต็มเอี๊ยด ก็จำต้องขนคนขนผู้ป่วยไปต่างจังหวัด ซึ่งกำลังเร่งดำเนินการกันในขณะนี้ ให้ไหลจากกทม.ออกไปต่างจังหวัด ที่มีขีดความสามารถรองรับอยู่บ้าง แต่หากสถิติผู้ป่วยล้ำหน้าผู้รักษาหายไปมาก อีกไม่นานต่างจังหวัดก็คงจะเตียงเต็มเช่นกัน และอุปกรณ์การแพทย์ เริ่มมีปัญหาอยู่บ้าง โดยเฉพาะสำคัญที่เครื่องช่วยหายใจ สำหรับผู้ป่วยอาการหนักพอสมควรที่ไม่สามารถหายใจได้เอง จนเริ่มมีความคิดริเริ่มคิดค้นผลิตเครื่องออกซิเจนอย่างง่าย มาแจกจ่ายกันแล้ว
*** ต้องขอคนไทยทั้งผอง ปรบมือชื่นชมและให้กำลังใจ ส่งกำลังใจในทุกทางทุกที่ที่ทำได้ บุคลากรทางการแพทย์ ทุกคนที่เสียสละ เสี่ยง เหนื่อยยากแสนสาหัส ต้องไม่ให้เขารับภาระอย่างโดดเดี่ยว และทุกภาคส่วนที่มีกำลังมีความคิดควรออกมาสนับสนุนช่วยเหลือพี่น้องไทยในทุกทางให้ผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกันให้ได้ ที่ต้องปรบมือรัวๆ ชั่วโมงนี้ เป็น กลุ่มแพทย์ชนบท ที่ขันอาสากันมา บางคนมาจากยะลา มาจากสงขลา นครศรีธรรมราช น่าน มากันจากหลายที่หลายแห่ง ลงไปในพื้นที่ชุมชนเพื่อตรวจคัดกรองประชาชนที่เข้าแถวรอกันจำนวนมาก ทำงานกันหามรุ่งหามค่ำ ทำกันจนไม่มีเวลาพัก ฝ่ายรัฐที่มีเครื่องไม้เครื่องมือ หรือ อะไรก็ตามแต่ที่สามารถสนับสนุนพวกเขาได้ ขออย่าได้ลังเลหรือให้กฎระเบียบทางราชการใดๆ มาขวางกั้นในการเข้าด้วยช่วยเหลือพวกเขา
*** โควิด 19 ที่กระหน่ำหนักเป็นจุดเร้าสถานการณ์สำคัญ ในการรุกไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตอนนี้หลายกลุ่มก้อน ทั้งกลุ่มเก่า และใหม่เริ่มหันมาจับมือกันไล่ลุงตู่แล้ว และมีหลายฝ่ายหลายคนเพียงแสดงความเห็นเรียกร้องกดดันให้รัฐบาลปลดล็อกนโยบายบางอย่างในการแก้โควิด หรือ ผ่อนคลายบางเรื่องในทางนโยบายที่เรียกว่า call out แต่กลับถูกไล่ล่าจากฝ่ายรัฐ กรณีดาราหลายคนพวกเขามุ่งหวังให้เกิดการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในการแก้ปัญหาให้พวกเขา แต่การแสดงความเห็นโดยสุจริต สุภาพ กลับนำมาซึ่งข้อหา ปฏิกิริยาไหลรวม จึงเกิดขึ้น ไหลรวมกับกลุ่มที่ตั้งธงไล่อยู่แล้ว คราวนี้จะไปกันใหญ่
*** ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมารัฐบาลแก้ปัญหาบางเรื่องไม่ไหวจริงๆ โดยเฉพาะการบริหารจัดการวัคซีนและการสื่อสารในภาวะวิกฤติ กรณีจัดการวัคซีนปัญหาสำคัญอยู่ที่การจัดหาโดยรัฐ เมื่อได้วัคซีนไม่กี่ยี่ห้อ มาไม่ทันขาดตอนจึงสะสมความไม่พอใจ ครั้นเอกชนจะไปหาก็ไม่เปิดที่เปิดทางอำนวยความสะดวกให้เขา ชั่วโมงนี้ไม่ต้องกลัวเสียหน้าแล้ว ใครเอาวัคซีนมาได้ ต้องไปกราบเขาแทนมากกว่า คราวนี้วัคซีนที่มีมาบ้างเจอความ “เหลื่อมล้ำ” เข้าไปอีกดังปรากฏเจ้าหน้าที่ตำรวจบางแห่งในจ.บุรีรัมย์ ได้เข็ม 3 บูสเตอร์ไปก่อนใครเพื่อน คำถามคือแล้วประชาชนอื่นยังไม่ได้แม้แต่เข็มแรกเล่า บุคลากรการแพทย์ด่านหน้าที่ยังไม่ได้เข็ม 3 เล่า ทำไมบุรีรัมย์ต้องมาก่อน ส่วนการสื่อสารภาวะวิกฤตินั้น เป็นปัญหายืดเยื้อของรัฐบาลตั้งแต่ต้นมือ เปลี่ยนโฆษกก็แล้ว เสริมทีมก็แล้วยังไม่มีทีท่าดีขึ้น แต่หัวใจสำคัญสุดอยู่ที่การพูดความจริงกับประชาชน อย่ากลัวในการสื่อสารความจริงประชาชน ถ้าทำเช่นนั้นได้ ที่แบกอยู่หนักอึ้งอาจจะผ่อนคลายลง และจะมีคนช่วยคิดช่วยทำช่วยประสานมากขึ้น
*** ไปที่ความเคลื่อนไหวสังคมกันบ้าง เขาคนนี้ผ่านการพลิกวิกฤติเป็นโอกาสมาหลายตลบ “พีระวิทย์ มีสมบูรณ์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบญทอยส์ กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิต นมปรุงแต่งชนิดอัดเม็ด ภายใต้แบรนด์ “แดรี่วัน” (Dairy One) ที่ จ.นครปฐม ล่าสุดสบโอกาสเหมาะทำการค้าเสริม นำเตียงสนามที่ผลิตโดยเครือญาติมาเปิดตลาดขายอีกช่องทาง โดยเตียงสนามที่ว่านี้ทำจากกล่องกระดาษ นอนได้จริง ในราคาเบาๆ เตียงขนาด 3 ฟุตสามารถรับน้ำหนักได้ 100 กิโล ราคาเตียงสนามอย่างเดียวชุดละ 450 บาท ราคาที่นอน ชุดละ 380 บาท รวมครบชุด ราคา 830 บาท รอการผลิตไม่เกิน 7 วันทำการ
*** ดูแลทุกคน วีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ล่าสุดได้รับมอบหมายจาก สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้หารือกระทรวงแรงงาน เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ให้นักลงทุนและผู้ปฏิบัติงานที่เป็นชาวต่างชาติในไทย โดยก่อนหน้านี้ มีนักลงทุนต่างชาติที่ได้รับการสนับสนุนวัคซีนจากการประสานของบีโอไอ กระทรวงแรงานไปแล้ว 3.6 หมื่นราย ยังมีนักลงทุนในนิคมอีก 8 พัน ที่ต้องประสานดำเนินการเพื่อขอโควตาเพิ่มเติมจากกระทรวงสาธารณสุขให้แก่นักลงทุนและผู้ปฏิบัติงานในกลุ่มนี้ เนื่องจากเป็นบุคลากรกลุ่มสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องรีบปฏิบัติ
*** ต้องชื่นชม บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด หรือ บีไอจี ผู้ผลิตออกซิเจนรายใหญ่ที่สุดในประเทศ เร่งสนับสนุนออกซิเจนทางการแพทย์พร้อมอุปกรณ์ปรับลดแรงดันผ่าน กลุ่มเส้นด้าย เพื่อนำไปสำรองและใช้งานสำหรับรักษาผู้ป่วย Covid-19 ขั้นวิกฤติที่กำลังรอเตียงเพื่อเข้ารักษาในโรงพยาบาล โดยที่ผ่านมาบีไอจีให้การสนับสนุนออกซิเจนทางการแพทย์กับหน่วยงานสาธารณสุข ทั้งภาครัฐ และเอกชน รวมถึงการสร้างเครือข่ายกับผู้แทนจำหน่ายของบีไอจีรอบกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในการเติมออกซิเจนทางการแพทย์โดยไม่มีค่าใช้จ่ายให้กับมูลนิธิ หรือ อาสาสมัครกู้ภัยต่าง ๆ ด้วยถังออกซิเจนที่ได้ตามมาตรฐาน มอก. ออกซิเจนทางการแพทย์ และอายุถังไม่เกิน 5 ปี หรือ หากเป็นถังบรรจุที่เกิน 5 ปี ต้องผ่านการทดสอบภาชนะบรรจุ ตามมาตรฐานการทดสอบภาชนะบรรจุก๊าซ (มอก–358-2551) และไม่เกิน 5 ปี โดยบีไอจียังคงเดินหน้าสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ วิกฤตินี้ อย่างต่อเนื่อง…