ปัญหาทั่วไปของน้ำผึ้งในยุคก่อนฟาร์มผึ้งจะมีมา ก็คือการปลอม ยามนั้นวุ่นวายกันมากจะซื้อน้ำผึ้งก็กลัวโดนคนขายมาหลอกโกง เอาน้ำตาลแบะแซเคี่ยวแล้วหยอดไขผึ้งตัวผึ้งเข้าไปหน่อย หยิบมาขายขวดเปนร้อยเปนชั่ง โดยมีรวงผึ้งเหี่ยวๆมาแขวนเปนพร็อพ_อุปกรณ์ประกอบฉาก ว่าได้มาจากรวงรังอย่างแท้ในป่าเชียวนะ
บางคนอวดว่ามีวิชาตรวจปลอมเอาหยดใส่ถ้วยน้ำฝนมั่ง แกว่งน้ำชาฯลฯ มั่ง _วุ่นวายขายขนม เฝ้าคอยดูเม็ดหยดหวานนั้นมันดิ่งลงก้นภาชนะแล้วมิแตกออก แถมเด้งกลับขึ้นผิวน้ำได้เปนอันใช้ได้ ซึ่งก็ไม่มีวิทยาศาสตร์ค่าความถ่วงจำเพาะมารับรองวิชาการแต่อย่างใด
อันชีวิตคนเรานั้นมันสำคัญที่เครดิต _ความเชื่อถือ
เหมือนการค้าน้ำผึ้ง ยี่ห้อที่เขายืนยงผ่านกาลเวลา โดยนัยยะหนึ่ง ย่อมบ่งนิยามความหมาย การค้าขายไม่มีการหลอกลวงลูกค้า ขายน้ำผึ้งอย่างว่ามาแท้ๆ ราคาเท่าไรนั้นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ตราสินค้ายืนยงบ่งเครดิต_ความน่าเชื่อถือ ของเยอรมันยี่ห้อแลงเนส ของไทยยี่ห้อศรีเชียร ยี่ห้อเวชพงศ์ ฯลฯ
บางคนเขาเล่าเรื่องเล่ห์กลการค้าให้ฟังว่า ในขวดไวน์ติดฉลาสวยๆนั่น ใครจะรู้?? ว่าน้ำเนื้อมันใช่รึเปล่า?
ก็เหมือนน้ำผึ้งอีก ที่เขาเล่า ก็ไม่ผิดในการแสวงกำไรกอบโกย ข้างในยัดไส้อะไรก็ได้ ใช้วิธีตีหัวเข้าบ้าน กอบโกยมาได้เสร็จ ลูกค้าจับได้ก็ต้องปิดตัวหนีหายไป เงินน่ะฟันหัวเขาได้แน่ แต่ไม่ค่อยยั่งยืน เหมาะแก่คนมีความสามารถเท่านั้น คนไม่มีความสามารถ หรือ หมายใจว่าความสามารถแห่งตนอาจเสื่อมได้ทุกเวลา เขาหาทางแก้ด้วยการสร้างสมเครดิตอย่างที่เรียกกันว่า สัจจะในวงการค้า
เรื่องนี้สำคัญนัก จักทำพลิกชีวิตยากไร้ให้มีมูลค่าได้มาก กลอนโบราณว่า
“สิบห้าชะตากลับ
ทุนทรัพย์แรกแสนเข็ญ
ภายหลังมาชะตาเป็น
เศรษฐีทรัพย์นับอนันต์”
หมายว่า สร้างเครดิตให้ตัวเองก่อน เงินตามมาภายหลัง เวลาคำนวณโครงการอย่ายัดไส้ ให้ความเห็นตรงไปตรงมา และหาวิธีการพลิกสถานการณ์ไปนำเสนอ ซื่อตรงไม่กั๊ก
สร้างตัวจาก’วิชา’ ตัวเองก่อน ขายของแท้ก่อน เส้นทางยาวไกลรวยเร็วไปก็ไม่เท่ารวยแน่นๆ
น้ำผึ้งศรีเชียร ยี่ห้อเดียวกันยังมีหลายราคา ก็จะเห็นว่าถึงว่าแท้ แต่มีหลายเกรด เขาไม่เอาผสมกันหลอกลูกค้า
อนึ่งว่า น้ำผึ้งรสดีต้องเดือนห้าอันนี้เพราะเปนว่า เดือนห้าหน้าแล้งไม่มีฝน น้ำผึ้งจึงข้นรสเข้มหนา เหมือนเวลากินไวน์ ต้องดูปี ปีที่ฝนแล้งไวน์แดงราคาดี เพราะมันได้รสเข้มข้นรากองุ่นไม่มีน้ำดูด ผลองุ่นอุดมด้วยรสแท้แห่งตัวมันเอง บ่มทำไวน์ได้ไวน์รสเต็ม จึงเปนที่นับถือดังนี้ฯ
ภาคกลางบ้านเราครั้นเมื่อป่ายังมีล้อมบ้าน ผึ้งหลวงมาพึ่งความสงบทำรวงรัง ยามเมื่อจะตีผึ้งเขาเอาผ้าพันโมงหัวปิดหน้า ได้หัวน้ำผึ้งหวานติดอยู่เหนือรังตัวอ่อน มักมีรสขม ว่ากันว่าอาจเปนด้วยผึ้งป่าไปหาเกสรต้นสะเดามา_มันขม หรือ ไปหาเกสรดอกมันสำปะหลังมา_มันเลยขม เจออย่างนี้เอาเก็บทำยากินแก้นอนไม่หลับ ตับไม่ดี รสน้ำผึ้งขมนั้นวับวาบอยู่ในปากทว่าผ่านลิ้นไปแล้วขมสุขุมชุ่มในคอ
พวกเมดิเตอเรเนียน ยาวไปยังชายฝั่งโปรตุเกส เขาไม่มีสะเดา แต่ของเขาก็มีน้ำผึ้งขม_bitter honey ได้มาต้นสตรอว์เบอร์รี่บ้านเขาซึ่งเปนไม้ใหญ่ยืนต้นไม่เหมือนล้มลุกปลูกใหม่ที่แม่ริมบ้านเรา
ของเขาขมเหลื่อมๆ มีกลิ่นชื่นของยูคาลิปตัส ใช้กินโดยจิ้มผักรสขมอย่างอาร์ติโช้ก รึว่ากาบผักอองดีฟ_ ขมตัดขม แล้วค่อยชื่นชมกับfinish แสนหวานในโพรงปากและปลายคอ
นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 หน้า 18 ฉบับที่ 3,783 วันที่ 15 - 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2565