ส่องโรงแรมใต้ดินลึกที่สุดในโลก (2)

วันนี้ผมจะพาเข้าไปชมความล้ำสมัยและความว้าวของโรงแรม InterContinental Shanghai Wonderland กันต่อครับ ...

โดยที่โรงแรมแห่งนี้ต้องการเสริมสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่อย่างแท้จริงให้แก่ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ “การผจญภัยสู่ใจกลางโลก” จึงเป็นแก่นของการออกแบบที่แทรกซึกเข้าไปในทุกอณูของโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นล็อบบี้ ร้านอาหาร บาร์ ห้องพัก สระว่ายน้ำ สปา และส่วนอื่นๆ

เมื่อลูกค้าเข้ามาในโรงแรมจะพบกับ Executive Lounge ล็อบบี้ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งด้วยสไตล์ดิบ เท่ห์ แต่เรียบหรูด้วยชั้นหินที่มีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันและทับซ้อนเป็นชั้นๆ โดยมีไฟส่องสว่างที่เปลี่ยนสีสันถูกเก็บซ่อนไว้ใต้ชั้นหินและจุดต่างๆ เสมือนเป็นลาวาจากภูเขาไฟ ทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกราวกับอยู่ใจกลางโลกที่มีการทับซ้อนของชั้นหินและลาวา

ในภาพรวม โรงแรมยังถูกตกแต่งด้วยสีบรอนซ์ ที่สะท้อนถึงเครื่องมือในการขุดเหมือง และเชื่อมอารมณ์เป็นเนื้อเดียวกับวิวทิวทัศน์ที่เป็นธรรมชาติภายนอก ซึ่งเป็นการเสริมสร้างประสบการณ์การพักผ่อนรูปแบบใหม่

แม้กระทั่งบริเวณทางเดินไปยังห้องอาหารจีนก็มีสวนต้นสน ซึ่งเป็นต้นไม้ที่มีอยู่มากในบริเวณเหมืองเก่าแห่งนี้ การตกแต่งเช่นนี้เป็นทั้งการจำลองบรรยากาศที่สร้างความผ่อนคลายให้กับลูกค้าไปพร้อมกัน

โรงแรมยังรังสรรค์ “จุดถ่ายภาพ” เป็นระยะตามโถงทางเดิน เช่น การนำเอาเรซินมาก่อสร้างเป็นดั่ง “ก้อนหินใหญ่” สีดำมันที่ดูเป็นธรรมชาติมาก จนหลายคนคิดว่า เป็นหินจริงที่ได้ขุดมาจากเหมืองยักษ์ เพื่อให้ลูกค้าที่ไม่สามารถเดินออกไปถ่ายรูปด้านนอก กับ ผนังถ้ำอย่างใกล้ชิดได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก 

สิ่งเหล่านี้ทำให้ลูกค้าที่เข้าพัก หรือ แวะเวียนไปรับประทานอาหารรู้สึกราวกับเป็น “นักสำรวจ” ที่เข้าไปผจญภัยในเหมืองยักษ์แห่งนี้ เริ่มต้นจากพื้นดิน หิน ใจกลางโลก จนถึงโลกใต้ท้องทะเล

ขณะเดียวกัน โรงแรมใต้ดินแห่งนี้ ถูกออกแบบและก่อสร้างบนแนวคิดการสร้างสมดุลระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ จึงนับเป็นโรงแรมที่ก่อสร้างตามระบบนิเวศทางธรรมชาติแห่งแรกของโลก 

นับแต่เปิดให้บริการ โรงแรมแห่งนี้ ได้รับรางวัลระดับโลกมากมาย อาทิ “Top Ten Architectural Miracles of the World” ของ National Geographic Channel และ “World Great Engineering Tour” รวมทั้งยังนับเป็น 1 ใน 10 อันดับแรกโรงแรมหรูของจีน และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของเซี่ยงไฮ้ ไปโดยปริยาย

นอกจากการตกแต่งที่มีอัตลักษณ์แล้ว การออกแบบยังเก็บรักษาวิวธรรมชาติที่งดงามภายนอกเอาไว้อย่างยอดเยี่ยม ลองจินตนาการภาพหน้าผาสีเทา ที่ตัดกับทิวไม้สีเขียวชะอุ่ม และท้องฟ้าที่สดใสดู บอกได้คำเดียวว่า คุณไม่สามารถหาวิวทิวทัศน์สุดพิเศษแบบนี้ได้ง่ายๆ อย่างแน่นอน 

กลุ่มซื่อเม่ายังลงทุนติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโรงแรม ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ และเพียบพร้อมด้วยความว้าว เพื่อมุ่งสร้างความสะดวกสบายแก่ลูกค้าในทุกนาทีที่ใช้เวลาอยู่ในโรงแรมแห่งนี้

ผมขอเริ่มจากพาท่านผู้อ่านไปส่องห้องพักกันก่อน ในภาพรวม เมื่อเดินเข้าไปสำรวจในแต่ละห้องก็พบว่า แต่ละห้องมีระดับความสูงและเหลี่ยมมุมที่ต่างกัน ส่งผลให้บรรยากาศและการตกแต่งแตกต่างกันไปด้วย

เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ตกแต่งแต่ละห้อง ก็ถูกออกแบบเฉพาะเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกสะดวกสบายและผ่อนคลายในการเข้าพัก ทั้งนี้ ทุกห้องล้วนมีระเบียงให้ลูกค้าสามารถเดินออกไปชมหลุมยักษ์ ป่าสน และวิวทิวทัศน์ด้านนอกได้ 

แม้กระทั่งของเตียงนอนหลักของแต่ละห้องก็หันหน้าสู่วิวด้านนอก ช่วยให้ลูกค้าสามารถอิ่มเอมกับทัศนียภาพที่แปลกตา บนเตียงนอนตั้งแต่แสงแรกจนถึงแสงสุดท้ายของแต่ละวัน 

แต่ละห้องยังติดตั้งระบบการสั่งงานอุปกรณ์ดิจิตัลด้วยเสียงในทุกห้องพัก ในทางปฏิบัติ ลูกค้าสามารถสั่งงาน “เสี่ยวตู้” ที่มีปัญญาประดิษฐ์กำกับให้เปิดผ้าม่าน วิทยุ โทรทัศน์ และอื่นๆ ได้ด้วยเสียง รวมทั้งไดร์เป่าผมยี่ห้อ Dyson และเครื่องทำกาแฟแบบแคปซูน

ห้องถูกแบ่งออกเป็นหลายประเภท และมีระดับราคาที่แตกต่างกันมาก ผมขอยกตัวอย่างห้องพักบางประเภท เช่น ห้องมาตรฐานรวมกว่า 250 ห้อง แบ่งออกเป็น 4 รูปแบบที่จำแนกตามแนวคิดหลักของหินสีหลากหลายชนิด 

เช่น ห้องโกเมน (Garnet) และเทอร์คอยส์ (Turquoise) อยู่ชั้น 1-7 ขณะที่ห้องทับทิม (Ruby) และไพลิน (Sapphire) อยู่ชั้น 8-10 โดยมีขนาดห้องระหว่าง 36-48 ตารางเมตร และราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2,500 หยวนต่อคืน

ขณะเดียวกัน ก็มีห้อง Waterfall Suites ขนาด 73-80 ตารางเมตร รวมจำนวน 6 ห้องที่แทรกตัวอยู่ระหว่างชั้น 7-13 ของโรงแรม 

สำหรับคนที่รักท้องทะเล โรงแรมก็มีห้อง Underwater Suites ในชั้นที่ 15 อีก 2 ห้อง ห้องพักประเภทนี้มีอ่างเลี้ยงปลาขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในบริเวณใจกลางห้อง ลูกค้าสามารถนอนแช่น้ำชมปลาทะเลหลากหลายสายพันธุ์ ได้อย่างสบายใจ และห้อง Duplex Underwater Suites ที่มีขนาดราว 110-140 ตารางเมตร ในชั้นที่ 14-15 อยู่อีก 6 ห้อง 

ห้องประเภทหลังนี้มี 2 ชั้น โดยชั้น 1 เป็นห้องนั่งเล่น พร้อมที่นอนแบบแค้มปิ้ง และชั้นบนเป็นห้องนอน ออกแบบจากแนวคิดการนั่งเรือยอทช์สุดหรูไปยังถ้ำลาวาใต้พิภพ ดังนั้น เวลาหันหน้าออกไปด้านหลังของห้องจะให้ความรู้สึกเสมือนกำลังล่องเรือออกสู่ท้องทะเลนั่นเอง 

ด้วยขนาดและการออกแบบดังกล่าว ห้องพักประเภทนี้จึงเหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ที่มีเด็กเล็กและรักโลกใต้น้ำ แต่ฟังสนนราคาเต็มที่ตั้งไว้ที่ 38,000 หยวนต่อคืนแล้วก็แทบสลบ 

                       

ห้องประเภทสุดท้ายที่ผมอดไม่ได้ที่จะนำเสนอก็ได้แก่ ห้อง Chairman Suits ขนาด 173 ตารางเมตร อยู่ที่ชั้น 6 ซึ่งถือเป็นเลขมงคลในวัฒนธรรมจีน พร้อมบริกรส่วนตัวตลอด 24 ชั่วโมง 

ห้องนี้ถูกออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ James Bond 007 โดยตกแต่งห้องพักให้กลายเป็นฐานลับสำรวจเหมือง เมื่อเดินผ่านประตูเหล็กที่ตกแต่งในสไตล์วินเทจแล้ว ลูกค้าก็จะพบกับห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ที่หรูหราและทันสมัย โดยมีอาวุธและเหรียญทองมากมายประดับห้อง 

โดยที่สถานที่ตั้งของห้องสุดพิเศษนี้ อยู่ใกล้กับหน้าผา จึงมีระเบียงและกระจกใสบานใหญ่ที่เปิดรับวิวที่เป็นธรรมชาติถึง 270 องศา

ท่านผู้อ่านคงอยากทราบแล้วว่า ห้องพักนี้ราคาเท่าไหร่ ข้อมูลของโรงแรมระบุว่า สนนราคาเบาะๆ แค่ 68,000 หยวนต่อคืน และหากสนใจก็ต้องจองล่วงหน้าเพราะมีเพียงแค่ 1 ห้องเท่านั้น!!!

เมื่อสอบถามว่าเคยมีคนยอมจ่ายเงินเข้าพักห้องนี้หรือไม่ ก็ได้รับแจ้งว่ามีเป็นประจำ เพราะโรงแรมขายเป็นแพ็กเก็จ พร้อมการจัดงานแต่งงานของหนุ่มสาวจีน 

ห้องพักเหล่านี้ยังมาพร้อมกับสิทธิ์ในการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ภายในโรงแรม อาทิ คลับ สระว่ายน้ำ และบริการเครื่องดื่มพิเศษ

อย่างไรก็ดี ผมลองเช็คราคาใน Ctrip แพล็ตฟอร์มด้านการท่องเที่ยวชั้นนำของจีน ก็พบว่า ราคาในแพล็ตฟอร์มออนไลน์อาจถูกกว่าราคาเต็มดังกล่าวราว 10-30% เลยทีเดียว

คราวหน้าผมจะไปชมการตกแต่ง และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น รวมทั้งกิจกรรมพิเศษของโรงแรมและในพื้นที่ใกล้เคียงกันครับ ...

 

เกี่ยวกับผู้เขียน : ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน, อุปนายกและเลขาธิการสมาคมส่งเสริมการลงทุนและการค้าไทย-จีน ผู้เชี่ยวชาญที่สั่งสมความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับตลาดจีน มุ่งหวังนำข้อมูลและมุมมอง ความคิดเห็นเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจ ธุรกิจ การตลาดและอื่น ๆ  ที่อยู่ในกระแสของจีนมาแลกเปลี่ยนกับผู้อ่าน เพื่อเราจะไม่ตกขบวน “รถไฟความเร็วสูง” ของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจีน