เพื่อให้จบสมบูรณ์สำหรับข้อเขียนชุดเรืองามๆของโลกนี้ ก็ต้องไปต่อไปว่า อันเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ของชาติไทยเรานี่ องค์การเรือโลกแห่งสหราชอาณาจักร (THE WORLD SHIP TRUST MARITIME HERITAGE) ได้พิจารณามอบรางวัลมรดกทางทะเล แก่เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ โดยเมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๓๕ (ค.ศ. ๑๙๙๒) คณะกรรมการองค์การเรือโลก World Ship Trust ประกอบด้วย นายอีเวน เซาธ์บี-เทลยัวร์ (Mr. Ewen Southby-Tailyour) ประธานองค์การเรือโลก นายไมเคิล ไทแนน (Mr. Michael Tynan) นิติกรประจำองค์การฯ และ นายเจมส์ ฟอร์ไซธ์ (Mr. James Forsythe) ได้เดินทางมายังราชอาณาจักรไทย และได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ ทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญรางวัลเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ คือ เหรียญรางวัลมรดกทางทะเลขององค์การเรือโลก ประจำ ค.ศ. ๑๙๙๒ (The World Ship Trust Maritime Heritage Award “Suphannahong Royal Barge”)
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงรับ ได้พระราชทานเหรียญรางวัลดังกล่าวแก่อธิบดีกรมศิลปากรในยุคนั้น คือ นายสุวิชญ์ รัศมิภูติ ด้วยกรมศิลป์ฯเปนหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลรักษาเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ ซึ่งจัดแสดงอยู่ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี ในคลองบางกอกน้อย
โดยการนี้ ดยุคเหล็ก_ดยุคเเห่งเอดินเบอระ มีศุภอักษรนำความชื่นชมยินดีในโอกาสสำคัญนี้ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ด้วย โดยเนื่องนับว่าเรือสุพรรณหงส์เปนเรือสำคัญระดับโลกที่มีทั้งศิลปะและนาวาสถาปัตยกรรมเชิงช่างที่สูงค่าอลังการ แม้ผ่านเวลากาลมาเนิ่นนานยังใช้งานลงน้ำได้จริง อีกท่วงท่าการพายการใช้งานการแห่เห่ก็เปนสง่าสมศักดิ์ศรีชาติประเทศผู้มีวัฒนธรรมสูงถึงขั้นอารยะ
อันว่าเรือลักษณะอย่างว่าเรือพาย_barge ที่มีลักษณะทำนองเดียวกันและได้รับรางวัลระดับโลกก็ยังมีอยู่ เรืองามๆเหล่านี้หากจะพบเห็น ก็ขออนุญาตต้องพาท่านผู้อ่านไปดินแดนประเทศโปรตุเกสซึ่งครั้งหนึ่งเคยเปนมหาอำนาจทางทะเลของโลก
เรือที่นับว่าเปนเรืองามของโลกนี้คือเรือ กาเลโอต้า สิริอุส เปนเรือพายกรรเชียงลักษณะทอดเก๋งบัลลังก์กัญญาปิดทองคำที่ท้ายเรือ ความยาว 95 ฟุต บรรทุกฝีพาย 80 คน สร้างโดยพระราชโองการของพระนางเจ้ามาเรียที่ 1 ตั้งแต่สมัยปี1778 ได้ทำราชการสนองพระเดชพระคุณต่อมาอีกร่วม 200 ปี จึงถูกปลดระวางไม่ได้ทำหน้าที่ต่อไป ครั้งสุดท้ายใช้รับเสด็จพระนางเจ้าอลิซาเบธ ที่ 2 แห่งอังกฤษ เสด็จทางชลมารคล่องแม่น้ำทากัส ในปัจจุบันนี้สถานการณ์โปรตุเกสเปลี่ยนแปลงไปเปนสาธารณรัฐ เรืองามๆ ของชาติได้แต่ไปอยู่ใพิพิธภัณฑ์ บนบกของเขา หมดสภาพการทำการตามหน้าที่
นักปราชญ์ยุคหนึ่งรำพึงถึงหน้าที่ของเรือกับชีวิตของคนว่า “เรือเมื่อลงน้ำต้องพาคนเดินทางออกไปผจญคลื่น เรือที่ได้แต่จอดทอดสมอหลบคลื่นอยู่ในอ่าว เรียกได้ว่าไม่ได้ทำหน้าที่ของเรือเลย”
อันนี้ก็ช่างเหมาะเจาะกับ สถานการณ์ comfort zone หรือ safe zone ที่ฮิตจะพูดถึงกันมาก ในห้วง 2-3 ปี มานี้ กรณีคนในองค์กรเกียจคร้านจะทำงาน 55
อนึ่งว่าเรืองามๆของฝรั่งนั้น ท่านใช้ตีกรรเชียงเอา ไม่ได้พาย เพราะถือกันว่าแรงฝีพายท่าตีกรรเชียงออกมาได้มากกว่าแรงจากท่าจ้วงพายปกติ เรือพระที่นั่งของฝรั่ง จึงเรียกว่า เรือ roll ตรงกันกับเพลงเด็กๆสมัยก่อนร้องว่า
‘ .. roll, roll,roll your boat. Gently down the stream. Merrily, merrily, merrily, merrily. Life is but a dream.’
สะท้อนให้เห็นวิถีชีวิตฝรั่งนิยมตีกรรเชียงมากกว่าพายเรือจ้วงน้ำแม้จะเรือชาวบ้านก็ตาม เรืองามๆของโลกที่ยังลงน้ำ ต้องยกให้เรือหลวงของสวีเดน ชื่อเรือ Vasaroden
เรือพระที่นั่งสวีดิชนี้สร้างในปี 1774 ตามการออกแบบของนาวาสถาปนิกคนสำคัญของเขา ทว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้อย่างรุนแรงในปี 1921 หลังดับไฟลงได้แล้ว รัฐบาลจัดสร้างขึ้นใหม่ตามของเดิม ใช้ชิ้นส่วนเก่าที่ยังดีอยู่มาร่วมด้วย โดยไม้พายยังเปนของดั้งเดิม ยาวทั้งลำ 61 ฟุต กว้างสามเมตรเศษ
สมเด็จพระราชาธิบดีกุสต้าฟใช้เรือพระที่นั่งนี้เสด็จพระราชดำเนินทางชลมารคไปเปิดอาคารที่ประชุมสภา ใช้ในราชการสำคัญต่างๆรวมทั้งรับเสด็จประมุขต่างชาติที่เปนพระราชอาคันตุกะด้วย
ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าออสก้าร์ที่ 2 ยามนั้นสยามประเทศเข้าสู่ยุคทันสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เสด็จพระราชดำเนินไปทวีปยุโรป เมื่อจะเข้าถึงกรุงสต็อกโฮม เรือพระที่นั่งวาร์ซาโรเดน ได้ถวายงานเปนเรือพระที่นั่งทรงในปี 1897 ปรากฏดังรูปจากสวีเดนที่ลงสี โดย คาร์ล เอฟ นี้ และเปนครั้งแรกในประวัติศาสตร์สวีเดนที่มีการถ่ายภาพเคลื่อนไหวในงานรัฐพิธีใหญ่ๆไว้ได้ เก็บแถบวิดิทัศน์ม้วนนี้ความยาว 12 วินาที ไว้ในหอจดหมายเหตุแห่งสต็อกโฮล์ม เปนภาพความทรงจำที่สวยงามและมีมนต์ขลังทางประวัติศาสตร์อย่างน่าประทับใจต่อมา
ในเก๋งเรือพระที่นั่งลำนี้ ดาดเพดานสีฟ้า มีตราสามมงกุฏสัญลักษณ์แผ่นดินของสวีเดน ส่วนแกะสลักเปนลวดเปนลายฝรั่งนั้นทาทองคุมสีโทนฟ้า/เหลือง/ขาว แห่งธงชาติสวีเดน
ยามสมเด็จพระราชินีอังกฤษ เสด็จเยือนสวีเดนโดยชลมารค เสด็จมาโดยเรือหลวงบริทัญญ่าขนาดมหึมา จอดทอดสมออยู่เขตน้ำลึกของอ่าว สต็อกโฮล์ม พระเจ้ากรุงสวีเดนก็ทรงพระกรุณาให้เรือวาร์ซาโรเดนตีกรรเชียงเทียบเพื่อรับเสด็จลงเรือพายนี้เข้าสู่พระมหานคร
ล่าสุดเรือนี้ใช้เทียบลำน้ำรับส่งเสด็จสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งเดนมาร์คพระองค์ใหม่ ซึ่งเพิ่งเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ เสด็จเยือนสวีเดนอย่างเปนทางการ
อนึ่งคำว่า นาวาสถาปัตย์นั้นยังเปนที่วุ่นวายสับสนในหลายวงการอยู่มาก เพราะเอาไปใช้กับเรือทันสมัยเข้าแล้วจะงงว่า บทบาทใครเปนวิศวะ ใครเปนสถาปัตย์ ใครคุมเครื่องใครคุมออกแบบ ศาสตราจารย์ พลเรือตรีสมภพ ภิรมย์ ศิลปินแห่งชาติและราชบัณฑิต ผู้เชี่ยวชาญด้านนาวาสถาปัตยกรรมได้ให้ความหมายไว้ว่าวิชานาวาสถาปัตยกรรมศาสตร์ ( Naval Architecture ) คือ วิชาที่เกี่ยวเนื่องกับศิลปะและเทคนิคของการออกแบบเรือและประโยชน์ใช้สอยในเรือ ดังนั้นเราคงพอจะอนุมานความหมายของนาวาสถาปัตยกรรมได้ว่า “ศิลปะและเทคนิคว่าด้วยการออกแบบและการสร้างเรือ”
ข้างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชทรงสนพระราชหฤทัยในงานด้านนาวาสถาปัตยกรรมมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ โดยขณะที่พระองค์ทรงศึกษาอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ก็ได้ทรงประดิษฐ์เรือรบจำลองด้วยพระองค์เอง และต่อมาพระองค์ก็ทรงออกแบบและทรงต่อเรือใบพระที่นั่งอีกหลายลำ ที่มีชื่อเสียงมากคือเรือใบขนาดเล็ก ที่ชื่อว่าเรือใบมด หรือแม้แต่การที่พระองค์ทรงมีพระราชดำริให้กองทัพเรือต่อเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งชุด ต.91 และพัฒนาเรื่อยมาจนถึงเรือ ต.991 ซึ่งพระองค์ท่านได้พระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยอันเป็นประโยชน์ต่อคณะทำงานเป็นอย่างยิ่ง และยังรวมถึงการที่พระองค์โปรดเกล้าฯพระราชทานนามเรือพระที่นั่งลำใหม่ว่า “เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ ๙ ” ซึ่งกองทัพเรือและกรมศิลปากรได้นำนามพระราชทานนี้มาเป็นแนวทางในการดำเนินการจัดสร้างเรือพระที่นั่งดังกล่าวเพื่อน้อมเกล้าฯถวายพระองค์ท่านในเวลาต่อมา และสิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนแล้วแต่แสดให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพในงานด้านนาวาสถาปัตยกรรมในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เป็นอย่างดี
ทีนี้หากจะพูดถึงว่าเรืองามๆของไทยนั้นมีโขนเรือเปนรูปสัตว์วิเศษต่างๆ เรืองามๆของฝรั่งที่มีโขนเรือสวย ต้องยกให้เรือพระที่นั่งของพระเจ้าดัชท์
เรือทองนี้ใช้การตีกรรเชียงเช่นเคย โขนเรือเปนรูปเทพเจ้าเนปจูนทรงรถลากเปลือกหอยปิดทองคำ มีสัตว์เทพพาหนะลากสามตน คือ ม้าน้ำสมุทร hippocampi หางปลา มีเทวดาเด็กน้ำตามเสด็จเป่าเเตรคู่ เดินลายต้นส้มทองคำ ประดับไว้ ด้วยราชวงศ์ดัทช์นั้นท่านชื่อวงศ์ orange
เรือนี้ยังไม่ปลดระวาง ออกแบบจัดสร้างโดยนาวาสถาปนิก อายุ 21 ปีในยุคนั้น นามว่า คอเนลีส แจน กลาวิมันด์ เมื่อปี 1818