เตรียมพร้อมรับราคานํ้ามันพุ่ง

11 ต.ค. 2567 | 23:30 น.

เตรียมพร้อมรับราคานํ้ามันพุ่ง : บทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,035 วันที่ 13 - 16 ตุลาคม 2567

เวลานี้ทั่วโลกต่างจับตาสถานการณ์สงครามในตะวันออกกลางที่ขยายวงกว้าง โดยเฉพาะสถานการณ์สู้รบระหว่างประเทศอิสราเอล และอิหร่าน ที่จะปะทุหรือทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นประวัติศาสตร์ซํ้ารอยเหมือนเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2551 อีกครั้ง ที่ราคานํ้ามันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นมาอยูที่ระดับ 147 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ที่ขณะนั้นเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียด ที่เกิดขึ้นระหว่างอิหร่านกับสหรัฐอเมริกา ได้ทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยไกล ที่มีรัศมีการยิงไปถึงอิสราเอล

ขณะที่สหรัฐฯ เอง ออกมาปกป้องชาติพันธมิตร ส่งผลให้อิหร่านออกมาตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธอีกรอบ นับเป็นสถานการณ์ที่สร้างความวิตกกังวลในตลาดนํ้ามัน หากอิหร่านถูกโจมตี และนำมาสู่การปิดคาบสมุทรฮอร์มุซ ซึ่งถือเป็นเส้นทางลำเลียงนํ้ามัน ประมาณ 40% ของปริมาณการขนส่งนํ้ามันของโลก

เฉกเช่นเดียวกับสถานการณ์ปัจจุบัน หากสหรัฐอเมริกายังหนุนหลังอิสราเอลให้โจมตีอิหร่าน และเพิ่มการควํ่าบาตรการส่งออกนํ้ามัน (เนื่องจากอิหร่านเป็นผู้ผลิตนํ้ามันรายใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของกลุ่มโอเปก มีกำลังผลิตนํ้ามันดิบอยู่ราว 3.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน) โอกาสที่อิหร่านจะตอบโต้ หรือ เพิ่มอำนาจต่อรองในสงคราม ด้วยการปิดเส้นทางการเดินเรือผ่านช่องแคบฮอร์มุซ ก็จะกระทบต่อเศรษฐกิจการค้าโลก

และราคานํ้ามันดิบอาจพุ่งขึ้นไปสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ได้อีกครั้ง จากปัจจุบันราคานํ้ามันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ผันผวนอยู่ที่ระดับ 74 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

แล้วไทยจะรับมืออย่างไร ในฐานะที่เป็นประเทศผู้นำเข้านํ้ามันดิบราว 90 % หรือ นำเข้านํ้ามันดิบอยู่ที่ราว 983,502 บาร์เรลต่อวัน คิดเป็นมูลค่าการนำเข้านํ้ามันดิบอยู่ที่ 94,516 ล้านบาทต่อเดือน

ในทางปฏิบัติแล้ว กระทรวงพลังงานยืนยันว่า ปัญหาการขาดแคลนนํ้ามันคงจะไม่เกิดขึ้น เพราะหากสถานการณ์เกิดขึ้นจริง ประเทศจะมีนํ้ามันดิบคงเหลือประมาณ 3,365 ล้านลิตร เพียงพอต่อความต้องการใช้ได้ 26 วัน นํ้ามันดิบที่อยู่ระหว่างขนส่ง 2,055 ล้านลิตร เพียงพอต่อความต้องการใช้ 16 วัน และ นํ้ามันสำเร็จรูป 2,414 ล้านลิตร เพียงพอต่อความต้องการใช้ 20 วัน รวมปริมาณนํ้ามันคงเหลือและปริมาณสำรองที่สามารถใช้ได้ 62 วัน

ขณะที่การจัดหานํ้ามันดิบมาเพิ่มเติม สามารถหาซื้อได้จากแหล่งอื่นๆ แต่ที่เป็นปัญหาคือ ราคานํ้ามันที่แพงจะรับกันได้หรือไม่

ผลกระทบที่ตามมา ย่อมส่งผลถึงราคามันสำเร็จรูปภายในประเทศ จะถีบตัวสูงขึ้นไปตามด้วย โดยเฉพาะราคานํ้ามันดีเซล ซึ่งเป็นนํ้ามันทางเศรษฐกิจ มีผลต่อต้นทุนการผลิตสินค้าและภาคขนส่ง รัฐบาลได้เตรียมแนวทางในการแก้ปัญหานี้ไว้แล้ว อย่างไรหรือไม่ เพราะการจะอาศัยกลไกของกองทุนนํ้ามันเชื้อเพลิง มาอุดหนุนราคานํ้ามัน ก็ดูเหมือนว่าจะหืดขึ้นคอแล้วเหมือนกัน 

ปัจจุบันเองกองทุนนํ้ามันฯ ก็อยู่ในฐานะยํ่าแย่จากการนำไปอุดหนุนราคาก๊าซหุงต้มและนํ้ามันดีเซลไม่เกิน 33 บาทต่อลิตร จนติบลบอยู่เกือบจะ 1 แสนล้านบาทแล้ว

ดังนั้น ในสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตามที่กล่าวมา จึงเป็นเรื่องท้าทายรัฐบาลของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าจะรับมือ หรือเข้ามาแก้ปัญหาค่าครองชีพของพี่น้องประชาชนได้อย่างไร เพราะเท่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ก็ยังไม่เห็นว่าราคานํ้ามันจะปรับตัวลดลงตามที่ได้มีการหาเสียงไว้

หากราคานํ้ามันในตลาดโลกจะพุ่งขึ้นอีก คงต้องรอลุ้นว่า รัฐบาลจะปล่อยให้ประชาชนรับชะตากรรมที่จะเกิดขึ้นอย่างไร

หน้า 4 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 44 ฉบับที่ 4,035 วันที่ 13 - 16 ตุลาคม พ.ศ. 2567