*** ต้องยอมรับว่าในวงการหุ้นไทย มีนักเก็งกำไรอยู่หลายกลุ่มซึ่งแต่ละกลุ่มจะมีรูปแบบและวิธีการที่แตกต่างกัน ขณะเดียวกันก็มีบ้างกลุ่มที่นิยมเล่นแรงๆ ด้วยพฤติกรรมการดันราคาหุ้นขึ้นไปสูงๆ ก่อนที่จะ “ทุบ” ด้วยการขายทิ้งในทุกราคาเพื่อทำกำไรให้ได้มากที่สุด ประมาณว่าเอาทุกเม็ด...โดยไม่สนใจสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมากับหุ้นตัวนั้นอีกเลย
*** หุ้นตัวล่าสุดที่พึ่งจะโดนกระทำ จนเป็นเหตุให้ผู้บริหารบริษัทไม่กล้าสู้หน้าใครก็คือ 24CS เพราะผ่านไปถึง 2 สัปดาห์ แต่ราคาหุ้นก็ยังถูกทุบลงมาไม่หยุด ขณะที่ผู้บริหารโรงงานทำท่อเหล็ก ที่โดนมาก่อนหน้า ต่างก็ปิดประตูไม่กล้าต้อนรับ...ไม่กล้าคุย เพราะกลัวจะมีใครรู้ว่าเคยติดต่อกับแก๊งโหดนี้ คนวงการหุ้นก็รู้ว่าใคร
*** การที่ราคาหุ้นของ MAKRO ก็ยังแอบขยับราคาขึ้นมาจากจุดต่ำสุดในรอบปีได้แรงถึง +7.58% ส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นการพิสูจน์ให้นักลงทุนได้รู้ว่าหุ้นตัวนี้มีคนดูแล อย่างที่สอง ก็เป็นการเคาะกะลาเรียกแขก เพื่อให้นักลงทุนรู้ว่าพื้นฐานของบริษัทยังคงแข็งแกร่งและนักวิเคราะห์ให้ราคาเป้าหมายเอาไว้สูงกว่าราคาหุ้นหน้ากระดาน อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของเจ๊เมาธ์...เจ๊มองว่าราคาหุ้นของ MAKRO น่าจะยังไปได้ไม่ไกลมากนัก อย่างแรกคือ มีนักลงทุนจำนวนมากที่มีต้นทุนราคาหน้ากระดานพร้อมจะทำกำไรทันทีที่ราคาหุ้นขยับขึ้น อย่างที่สองคือ มีนักลงทุนที่ติดดอยอีกจำนวนมาก พร้อมที่จะขายทิ้งเพื่อให้หลุดดอย และท้ายที่สุดราคาพื้นฐานที่ส่วนใหญ่ที่นักวิเคราะห์บอกนั้น ต่างก็อยู่บนพื้นฐานการฟื้นตัวของธุรกิจในช่วงหลังไตรมาส 4/65 ไปแล้ว หมายความว่าจะเห็นความชัดเจนได้จริงก็น่าจะเป็นช่วงต้นปี 66 เป็นอย่างช้า ดังนั้น แล้วถ้าอยากจะเก็บยาวก็น่าจะทำได้ แต่ถ้าจะหวังเล่นเร็ว หรือ เล่นสั้น ก็ต้องทำใจนะคะ จังหวะนี้น่าจะแค่ “มาให้อยาก....แล้วจากไป” เท่านั้นเองค่ะ
*** อย่างที่บอกมาแล้วหลายรอบว่า TLI เป็นหุ้นที่เก็บได้ อย่างหนึ่งคือการจับเอาราคาหุ้นไอพีโอแถวๆ 16.00 บาท เป็นตัวตั้งเพื่อแบ่งไม้เก็บราคาหุ้นในตอนย่อราคา เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยพิเศษอื่นใดเข้ามา อย่างที่สองคือ ผลการดำเนินงานของหุ้นประกันภัยมักจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ในช่วงไตรมาสแรกของปีเนื่องจากมีเงินโบนัสและได้รับสิทธิทางภาษีในช่วงนั้นเป็นส่วนใหญ่
*** ขณะเดียวกันในส่วนรายได้ที่มาจากดอกเบี้ยขาขึ้น ที่พูดกันว่า บริษัทประกันภัย จะเป็นอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจที่ได้ประโยชน์มากที่สุด ก็ยังเป็นแค่ข้อมูล...แต่ตัวเลขกลับยังไม่ชัดเจน ปัจจัยเดียวที่จะพิสูจน์ได้ว่า TLI เป็นบริษัทที่ดีจริง จึงมีเพียงตัวเลขจากผลการดำเนินงานเท่านั้น ซึ่งนั่นหมายความว่า ถ้าราคาหุ้นของ TLI จะขยับตัวก็น่าจะต้องรอไปอีก จนกว่าจะมีความชัดเจนเรื่องผลการดำเนินงานโน้นเลย เพราะฉะนั้นใครที่มีอยู่แล้วก็ไม่ต้องรีบ...ถัวได้ก็ถัว ถัวไม่ได้ก็ถือไปเรื่อยๆ ถือซะว่าซื้ออนาคต ถึงวันนี้จะยังไม่มีอะไร แต่เชื่อเถอะว่า TLI มีดีพอที่จะให้ถือยาวได้เจ้าค่ะ
*** มีหลายคนบอกว่าสาเหตุที่ KEX ขาดทุน เป็นเพราะบริษัทวางแผนธุรกิจผิดพลาด บอกไว้ก่อนว่าเจ๊เมาธ์ไม่ได้เชียร์หุ้นตัวนี้ แต่เจ๊ยืนยันว่าการขาดทุน หรือ มีกำไรน้อย ยังเป็นไปในทิศทางที่บริษัทนี้ตั้งใจให้เป็น อย่างแรกคือความพร้อมที่จะขาดทุน เนื่องจากบริษัทมีทุนใหญ่จากต่างประเทศที่คอยรองรับโดยไม่เกิดความเสียหายกับโครงสร้างธุรกิจ ส่วนอย่างที่สอง คือ การมีทั้งจำนวนสาขาและรายได้จากค่าบริการที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งผลการดำเนินงานที่ขาดทุนแลกมาด้วยฐานข้อมูลของผู้ใช้บริการที่มีค่ามาก เมื่อถูกนำไปต่อยอดในธุรกิจของบริษัทแม่ของ KEX ในต่างประเทศ ซึ่งรอแค่เวลาว่าจะต่อจิ๊กซอว์นี้ให้สมบูรณ์เมื่อไหร่เท่านั้น ขณะเดียวกันการที่ราคาหุ้นของ KEX ปรับร่วงมา เป็นเพราะค่านิยมที่นักลงทุนไทยมองเรื่องของผลกำไรเป็นปัจจัยหลัก แต่กลับไม่มองเรื่องทิศทางธุรกิจ หรือ อาจจะไม่ให้ความสนใจเลยด้วยซ้ำไป
*** อย่างไรก็ตาม แม้ว่าราคาหุ้นของ KEX จะเริ่มเข้าไปอยู่ในจุดที่สะสมได้...แต่ไม่ได้หมายความว่า ราคาหุ้นจะเริ่มกลับตัวเป็นขาขึ้น เพียงแต่เจ๊เมาธ์มองว่าจะไม่ลงไปมากกว่านี้มากนักเท่านั้น ดังนั้น ถ้าใครคิดจะเข้าก็อาจจะต้องถือนานสักหน่อย แม้ราคาหุ้นอาจจะไม่ไปไหน...แต่ก็น่าจะไม่เจ็บตัว