พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีรักษาการ ได้อำลาข้าราชการในทำเนียบ และสื่อมวลชน แต่สิ่งหนึ่งที่แอบสังเกตเห็นได้ ความเป็นสายมูของนายกรัฐมนตรี ยังคงมีเสมอ ด้วยความเคารพนอบน้อม โดยเฉพาะต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในทำเนียบรัฐบาล
ต้องไม่ลืมว่า ทำเนียบรัฐบาลเป็นอดีตบ้านพักของพลเอก พลเรือเอก เจ้าพระยารามราฆพ (หม่อมหลวงเฟื้อ พึ่งบุญ) เดิมเรียกว่า บ้านนรสิงห์ แล้วในยุคต่อมาจอมพลแปลก พิบูลสงคราม ติดต่อขอซื้อเพื่อทำเป็นสถานที่รับรองแขกต่างประเทศที่มาเยือนในราคา 1,000,000 บาท ต่อมาในปี 2484 มาใช้เป็นทำเนียบรัฐบาล มีการเปลี่ยนชื่อจาก บ้านนรสิงห์ มาเป็น ทำเนียบสามัคคีชัย จากนั้นมาก็ใช้เป็นทำเนียบรัฐบาลจนถึงปัจจุบัน
ทำเนียบรัฐบาลเป็นตึกอาคารทรงแบบ "กอธิก" ตอนปลาย กรมศิลปากรขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแล้ว โดยพื้นที่รอบๆ ทำเนียบฯ มีทั้งหมด 27 ไร่ 3 งาน 44 ตารางวา
ความเชื่อฮวงจุ้ย สายมู ของแต่ละนายกรัฐมนตรี
ในรัฐบาลหลายสมัยเคยมีการปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์รอบสวนพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลให้สวยงาม แต่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่า เป็นการปรับฮวงจุ้ยเสริมบารมีของผู้ที่มาเป็นนายกรัฐมนตรี อาทิ สมัยรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีปรับภูมิทัศน์หลายครั้ง เช่น การปลูกดอกแก้ว ดอกไม้ โปรดของอดีตนายกฯ และนำไม้ดอกประจำฤดูมาปลูกหน้าตึกไทยคู่ฟ้า การย้ายศาลพระภูมิที่ตั้งอยู่บริเวณรั้วหน้าทำเนียบฯ กว่า 50 ปีออก แล้วย้ายไปไว้ข้างตึกสันติไมตรีหลังนอกแทน ทั้งมีโครงการสร้างห้องใต้ดิน ขุดอุโมงค์
จากนั้นในสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ มีการปรับเปลี่ยนนำอ่างน้ำพุมาวางไว้หน้าห้องสีม่วงในตึกไทยคู่ฟ้า เอาต้นโมกและโกสนมาตั้งเรียงในตึก ติดหมุดสะท้อนแสงหน้าบันไดทางขึ้นตึก มีการนำรูปปั้นพระสังกัจจายน์และปี่เซียะตั้งบนหลังคาตึกไทยคู่ฟ้าตามความเชื่อแบบจีน
สมัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี มีการปรับภูมิทัศน์หลายรอบ อาทิ การถอนบรรดาต้นไม้เก่าแก่ออกไป เช่น ต้นกระถินณรงค์ยักษ์ ต้นลีลาวดี ต้นมะม่วง สมัยจอมพล ป. ต้นข่อย และกอไผ่จีน ใกล้ห้องทำงานผู้สื่อข่าวทำเนียบฯ และมีการนำต้นไม้กลับมาปลูกเพิ่มเติมอีกจำนวนมาก และมีการปรับเปลี่ยนทางเข้านายกฯ จากเข้าข้างหน้าเป็นเข้าข้างๆ แทน มีการนำเสาธงชาติต้นสีทองใหม่เอี่ยม 3 ต้น มาตั้งไว้ประตูทางเข้า-ออก มีการนำต้นโกสน 6 ต้น มาตั้งคั่นระหว่างปืนใหญ่ และสุดท้ายปรับเปลี่ยนแบบยกสวนนงนุชไว้ที่ทำเนียบรัฐบาล
สำหรับในยุคของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีการปรับปรุงหลายสิ่งอย่าง ปรับภูมิทัศน์ให้ดีขึ้น โล่งโปร่งเบาสบายตา แต่ที่สำคัญ คือ มีการสร้างนรสิงห์ปราบมารเอาไว้ เป็นพลังงานที่ต่อต้านกับแนวพลังงานลบ
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ความเคารพนอบน้อมพระพรหมบนดาดฟ้าของทำเนียบ เป็นอย่างยิ่ง ในวันที่เข้ามารับตำแหน่งก็ขึ้นมาสักการะ แม้วันสุดท้ายที่ดำรงตำแหน่งก็ขึ้นไปกราบสักการะเพื่อลา
นับได้ว่าเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ทั้งข้าราชการและข้าราชการการเมือง จากยุคสู่ยุค จากรุ่นสู่รุ่น แม้ทำเนียบรัฐบาลนี้จะเคยมีคนมาทำพิธีกรรมเทเลือด สาดเลือด เพื่อสาปแช่งรัฐบาลบางรัฐบาลมาแล้วก็ตาม แต่ด้วยความศักดิ์สิทธิ์แห่งพลังเทวะวิทยาพระพรหมเจ้า ก็ยังขจัดปัดเป่าให้ทำเนียบรัฐบาลรอดพ้นมาได้
ผู้มีบุญเท่านั้นที่จะได้มาทำงานในทำเนียบรัฐบาลในฐานะนายกรัฐมนตรี เพราะเคยมีบางท่านแม้จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ก็ไม่เคยได้ทำงานในทำเนียบเลยแม้แต่วันเดียว
ดังนั้น ทำเนียบรัฐบาลจึงไม่ใช่เป็นสถานที่อะไรก็ได้ สำหรับคนที่บุญวาสนาไม่ถึงเรื่องแบบนี้ไม่เชื่อได้แต่ลบหลู่ไม่ได้