รับเหมาลุ้นร.ฟ.ท.แบ่งสัญญารถไฟทางคู่เฟส 2 จำนวน 9 เส้นทางรวมงบลงทุนกว่า 3.9แสนล้านคาดมีกว่า 30 สัญญาย่อย เร่งเสนอซูเปอร์บอร์ดไฟเขียวก่อนเสนอครม.เห็นชอบ ล่าสุดอยู่ระหว่างรับฟังความเห็นหน่วยงานเกี่ยวข้องและรอผลอีไอเอ ด้าน 10 สัญญาเฟสแรกเสนอคมนาคมก่อนชงครม.ลุ้นเซ็นสัญญาทิ้งทวนปลายปีนี้
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมแบ่งสัญญาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 9 เส้นทาง รวมวงเงินลงทุน 398,377 ล้านบาท เพื่อให้ง่ายต่อการดำเนินการและเป็นการกระจายงานให้เกิดความรวดเร็ว สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจสู่ภูมิภาคมากขึ้น
[caption id="attachment_181793" align="aligncenter" width="503"]
อานนท์ เหลืองบริบูรณ์[/caption]
โดยเบื้องต้นนั้นคณะกรรมการตรวจการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ (ซูเปอร์บอร์ด) จะต้องตรวจและเห็นชอบก่อนเสนอคณะกรรมการ(บอร์ด)การรถไฟแห่งประเทศไทยอนุมัติ หลังจากนั้นจึงจะแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาทิ สำนักงบประมาณและนำรายงานคณะรัฐมนตรี (ครม.)ต่อไป
ทั้งนี้การแบ่งตอนจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อโครงการดังกล่าวจะต้องผ่านการพิจารณาจากครม.อนุมัติให้ดำเนินการแล้วเท่านั้น แต่ขณะนี้ทั้ง 9 เส้นทางยังอยู่ระหว่างการส่งรายละเอียดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณา อาทิ สำนักงบประมาณ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฯลฯ พิจารณาเห็นชอบก่อนนำรวบรวมเสนอครม.อนุมัติให้ดำเนินโครงการต่อไป
“เมื่อได้รับอนุมัติโครงการร.ฟ.ท.ก็พร้อมจะแบ่งสัญญาได้ทันที หลักการยังดำเนินการเช่นเดียวกับ 5 เส้นทางในเฟสแรกที่แบ่งออกเป็น 13 สัญญา โดยเป็นสัญญางานโยธาจำนวน 10 สัญญา และงานระบบอาณัติ สัญญาณ จำนวน 3 สัญญา ส่วนเฟสที่ 2 นี้มีมากถึง 9 เส้นทางคาดว่าจะมีจำนวนสัญญาย่อยมากขึ้นกว่าเฟสแรก ส่วนจะมีจำนวนกี่สัญญานั้นอยู่ระหว่างผู้รับผิดชอบดำเนินการคาดว่าจะได้ข้อยุติในเร็วๆนี้”
ทั้งนี้สำหรับความคืบหน้าจำนวน 10 สัญญาในเฟสแรกนั้นกระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างการนำเสนอสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเพื่อเสนอครม.เห็นชอบต่อไป หลังจากนั้นร.ฟ.ท.จึงจะนัดผู้รับเหมาทั้ง 10 สัญญาลงนามสัญญาอย่างเป็นทางการต่อไป คาดว่าอย่างช้าน่าจะสามารถดำเนินการลงนามได้ในเดือนธันวาคมนี้
“สำหรับเฟสแรกขณะนี้ทุกอย่างสะดุดทั้งหมด บางรายการต้องเสนอครม.อีกครั้งเพื่ออนุมัติแล้วต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ในส่วนการเวนคืนนั้นเนื่องจากโครงการรถไฟทางคู่แนวเส้นทางยังอยู่ในเขตทางรถไฟ มีบางช่วงบางจุดเท่านั้นที่จะมีการเวนคืนหรือจ่ายค่าชดเชย เบื้องต้นนั้นพบว่างบประมาณมีเพิ่มค่าเวนคืนมาบางส่วน แต่ในภาพรวมแล้วยังอยู่ในกรอบวงเงินที่จะเสนอครม.อนุมัติ และให้เป็นไปตามที่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งให้ไปศึกษาราคาที่ดินตามราคาตลาดทั่วไปเพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาเช่นบางโครงการที่ผ่านมาอีกจนต้องกลับมานำเสนอขออนุมัติจากครม.ครั้งแล้วครั้งเล่า”
แหล่งข่าวจากร.ฟ.ท.รายหนึ่งกล่าวถึงการแบ่งสัญญาของ 9 เส้นทางรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ว่าหากยึดตามหลักเกณฑ์ที่ซูเปอร์บอร์ดจัดแบ่งสัญญาย่อยเฟสแรกจะพบว่าในการแบ่งสัญญาเฟสที่ 2 อีกจำนวน 9 เส้นทางนั้นคาดว่าจะมีไม่น้อยกว่า 30 สัญญา ส่วนจะเป็นสัญญางานโยธาจำนวนกี่สัญญาและสัญญางานระบบกี่สัญญานั้นขณะนี้ใกล้ที่จะได้ข้อสรุปชัดเจนแล้ว ประกอบกับบางสัญญามีมูลค่าสูงมากกว่า 6-7หมื่นล้านบาทจึงอาจจะแบ่งออกเป็นสัญญาย่อยได้มากขึ้น
ทั้งนี้เมื่อแบ่งแล้วเสร็จหลังจากนั้นจึงจะนำเสนอซูเปอร์บอร์ดพิจารณาเห็นชอบ และเสนอบอร์ดร.ฟ.ท.ก่อนนำเสนอกระทรวงคมนาคมพิจารณาประการสำคัญเพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าอันเนื่องมาจากการปรับเปลี่ยนชื่อของแต่ละสัญญาจนต้องนำเสนอครม.อนุมัติเพื่อส่งเรื่องให้สำนักงบประมาณสามารถทำเรื่องเบิกจ่ายได้อย่างตรงตามหลักเกณฑ์ทางบัญชีต่อไป
“โดยหลักเกณฑ์สำคัญยังเหมือนกับเฟสแรกที่ดำเนินการ คืออาจจะอยู่ในระดับสัญญาละ 8,000-1 หมื่นล้านบาท แต่บางสัญญามีระยะทางยาวจึงต้องพิจารณาจากรายละเอียดอื่นประกอบด้วย เช่นเดียวกับสัญญางานระบบอาณัติสัญญาณที่จะต้องพิจารณาใหม่ทั้งหมด จึงไม่ต่อเนื่องกับเฟสแรกและต้องประมูลใหม่ไม่สามารถต่อเนื่องจากเฟสแรกที่ผ่านมาได้”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,312 วันที่ 9 - 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560