เปิดเงื่อนไขซอฟต์โลน 8 พันล้านชงคลังรีสตาร์ตธุรกิจท่องเที่ยว

11 ก.ย. 2564 | 00:30 น.

ธุรกิจท่องเที่ยวนัดคลัง-สภาพัฒน์ฯ พิจารณาเงื่อนไขซอฟต์โลน 8 พันล้านบาท รีสตาร์ตธุรกิจ เบื้องต้นปล่อยกู้รายละไม่เกิน5ล้านบาท ดอกเบี้ย 2% 7 ปี ใช้บุคคลค้ำไขว้ ไม่ดู NPL ทีเอชเอ ชี้เป็นแนวทางช่วยเอสเอ็มอี แต่ไม่เพียงพอสำหรับธุรกิจโรงแรมชงขอเพิ่มวงเงิน 5-20 ล้านบาทต่อราย

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ข้อสรุปเบื้องต้นในการหารือกับ5สมาคมท่องเที่ยว ได้แก่ สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว สมาคมโรงแรมไทย สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ สมาคมสปาไทยและสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย ถึงเงื่อนไขการขอสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน)

หลังจากก่อนหน้านี้รมว.กระทรวงท่องเที่ยวและรมว.กระทรวงการคลัง ได้ประชุมร่วมกันถึงแนวทางการช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวจากผลกระทบของโควิดระลอกใหม่ ซึ่งทางคลังฯแจ้งว่ามีวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เหลืออยู่ราว 7,000-8,000 ล้านบาทสามารถนำเงินมาช่วยเหลือเพื่อรีสตาร์ตธุรกิจท่องเที่ยว รับการนำร่องเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

 

มาริสา สุโกศล หนุนภักดี

 

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่ามาตรการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ หรือซอฟต์โลน วงเงิน8พันล้านบาทที่กระทรวงการท่องเที่ยวได้หารือกับกระทรวงการคลังที่จะกันเงินไว้สำหรับช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวเพื่อให้มีเงินทุนกลับมาฟื้นธุรกิจนั้น

เบื้องต้นจากการหารือระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวฯและ5สมาคมท่องเที่ยว มีเงื่อนไขว่าจะให้ซอฟต์โลน เพื่อเป็นเงินหมุนเวียนให้แก่ผู้ประกอบการไม่เกินรายละ 5 ล้านบาท ดอกเบี้ย 2% ระยะเวลาผ่อนชำระ 7 ปี สามารถใช้บุคคลหรือนิติบุคคลค้ำประกันไขว้ระหว่างกันได้ และสถาบันการเงินจะนำเรื่องของ NPL มาพิจารณาในการปล่อยสินเชื่อ

โดยจากนี้ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวจะนำผู้แทนจาก 5 สมาคมท่องเที่ยวเข้าพบกระทรวงการคลัง และสภาพัฒน์ฯเพื่อพิจารณาต่อไป ซึ่งความช่วยเหลือนี้จะไม่ใช่เพียงสมาชิกของ 5 สมาคมท่องเที่ยวเท่านั้น แต่เป็นการช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยวในภาพรวมของประเทศ

อย่างไรก็ตามด้วยเงื่อนไขดังกล่าวจัดว่าเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการระดับเอสเอ็มอี ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่สำหรับโรงแรมใหญ่เองก็ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มากไม่แพ้กันจากต้นทุนในการดำเนินธุรกิจที่สูงกว่าสมาคมโรงแรมจึงเสนอขอให้พิจารณาการปล่อยสินเชื้อก้อนนี้ให้กับธุรกิจโรงแรมวงเงิน 5-20 ล้านบาทต่อราย รวมถึงปลดล็อกเพดานวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 500 ล้านบาทกับสถาบันการเงินแต่ละแห่ง ทางสมาคมโรงแรมก็จะนำเรื่องนี้เข้าหารือกับทางกระทรวงการคลังด้วย

 

เปิดเงื่อนไขซอฟต์โลน 8 พันล้านชงคลังรีสตาร์ตธุรกิจท่องเที่ยว

ขณะนี้ธุรกิจโรงแรมเจอกับวิกฤติหนักสุดแล้ว แต่ก็ต้องมองไปข้างหน้าและวางแผนล่วงหน้าว่า หากโรงแรมกลับมาเปิดใหม่ จะทำได้แค่ไหน เพราะต้องใช้เงินทุนปรับปรุงซ่อมแซมจากการปิดชั่วคราว และจ้างพนักงานใหม่ ต้องการวางแผนความต่อเนื่องของธุรกิจ หรือ Business Continuity Plan (BCP)

ทั้งนี้โรงแรมขนาดกลางและใหญ่ โรงแรมอิสระ ธุรกิจของครอบครัว (ไม่รวมกลุ่มทุนสายป่านยาว) และอยู่ในจังหวัดท่องเที่ยว ในสถานการณ์โควิดถือว่าลำบากมากที่สุด รวมทั้งโรงแรมในกรุงเทพฯ 50% ต้องปิดชั่วคราว

ขณะที่ธุรกิจรายเล็ก สามารถปรับตัวลดต้นทุนได้เร็วกว่า ตรงข้ามกับโรงแรมที่เป็นรายกลางหรือใหญ่ ซึ่งมีต้นทุนที่สูงกว่า โดยเฉพาะต้นทุนพนักงาน บางรายก็ยังมีความต้องการสินเชื่อที่จะกลับมาเปิดธุรกิจในช่วงปลายปีรับช่วงไฮน์ซีซันปลายปี หากสินเชื่อก้อนนี้มีการปล่อยวงเงินกู้ต่อรายได้มากขึ้นก็จะช่วยกลุ่มเหล่านี้ได้ และต้องการให้รัฐบาลเร่งฉีดวัคซีน เพื่อให้กลับมาเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ และแม้กระทั่งนักท่องเที่ยวไทย เพราะคนไทยเองก็ระวังความปลอดภัยของตัวเอง เลือกพักโรงแรมที่พนักงานได้รับวัคซีนแล้ว นางมาริสา กล่าวทิ้งท้าย

 

โชติ ตราชู

นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าวงเงินซอฟท์โลน 8,000 ล้านบาทที่จะนำมาช่วยเหลือและรีสตาร์ตธุรกิจท่องเที่ยวนั้น เป็นวงเงินตกค้างมาจากมาตรการซอฟท์โลนของรัฐบาลที่ออกมาต่อเนื่องนับจากเกิดโควิด-19 ระลอกแรกตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงสินเชื่อฟื้นฟูล่าสุด ที่ส่วนหนึ่งมาจากการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำผ่านธนาคารพาณิชย์และธนาคารของรัฐ

ดังนั้นจากการหารือระหว่างรมว.ท่องเที่ยวและรมว.คมนาคม จึงมองว่าจะกันเงินจำนวนนี้ให้ธนาคารของรัฐ คือ ธนาคารออมสิน และเอสเอ็มอีแบงก์เข้ามาช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยว โดยจะเน้นไปที่ธุรกิจเอสเอ็มอีเป็นหลัก

เนื่องจากที่ผ่านมาปัญหาของผู้ประกอบการท่องเที่ยวทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯได้รับเสียงสะท้อนมาอยู่ตลอดเวลาคือ การเข้าถึงซอฟต์โลนได้น้อยมาก โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ซึ่งผมและปลัดกระทรวงการคลัง จะร่วมกันหารือแนวทางการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวในเรื่องนี้ เพื่อให้เกิดการเข้าถึงสินเชื่อได้เพิ่มขึ้น