ภญ.ดร.ผกากรอง ขวัญข้าว ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวบรรยายในช่วงเสวนาหัวข้อ เสวนา Thai Hub Thai Herb : โอกาสทางธุรกิจ ในงานสัมนา “สมุนไพรไทย สมุนไพรโลก THAI HUB : THAI HERB” ว่า โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นผู้ให้บริการทางการแพทย์ โดยผสมผสานสมุนไพรในการให้บริการมาต่อเนื่อง
จากการศึกษาวิจัย ทำให้มองเห็นโอกาสจากการดูแลสุขภาพของคนที่เปลี่ยนไป โดยพบว่าเทรนด์การดูแลสุขภาพในอนาคต มุ่งเน้นการป้องกันมากกว่าการรักษา (Prevention better than cure , ต้องการความเป็นหนุ่มสาว (Active living) , ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม (Holistic care for well-being) , การป้องกันโรคเรื้อรังที่ก่อให้เกิดปัญหา (Chronic diseases; Diabetes, Hypertension, Cancer) รวมถึงโรคระบาด (Pandemic diseases) และต้องมีเทคโนโลยีที่เข้าถึงง่าย (High Tech and High Touch)
ดังนั้นรพ.จึงทำโมเดลว่าสมุนไพรจะตอบโจทย์เหล่านี้ได้อย่างไร ผ่านการวิจัยต่างๆ ซึ่งพบว่า สมุนไพรหลายประเภทสามารถตอบรับกับความต้องการได้ เช่น มะระขี้นก ช่วยลดน้ำหนัก ไขมัน และน้ำตาล ฯลฯ ขมิ้นชัน ลดความเสี่ยงเป็นเบาหวาน ดาวเรือง บำรุงสายตา เป็นต้น
โดยพบว่าปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยหลายชนิดที่ได้รับความนิยมในอาเซียน เช่น เครื่องสำอาง แต่แบรนด์ไทยยังต้องเน้นการพัฒนาสารสกัดในประเทศ ให้สามารถแข่งขันได้ โดยอาศัยการวิจัย และเป็นผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง โดยอาศัยจุดแข็ง ความโดดเด่นด้านบริการ ที่จะผสมผสานสมุนไพรไทยเข้าสู่ธุรกิจ Wellness & Tourism
อย่างไรก็ดี สมุนไพรหลายชนิดมีศักยภาพ เช่น บัวบก, กัญชา ฯลฯ แต่รูปแบบการใช้หรือการบริโภคในไทยและต่างประเทศแตกต่างกัน ดังนั้นผู้ประกอบการต้องศึกษาวัฒนธรรมการบริโภคในแต่ละประเทศ และตลาดเฉพาะที่แตกต่างกันไป เพื่อสร้างโอกาส ขณะที่การนำเสนอวิธีใช้ ก็มีความจำเป็นแต่ต้องมีการศึกษาวิจัย การสร้างนวัตกรรม รวมถึงผลวิจัยทางการตลาดมาช่วยสนับสนุนและสร้างความเชื่อมั่นให้กับสมุนไพร ซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มได้มากขึ้น
“สมุนไพรไทยหลายประเภทที่มีศักยภาพ เช่น รางจืด ขมิ้น ข่า รวมถึงกัญชง ที่มีโอกาสในการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพได้ รวมถึงการแปรรูปสู่ธุรกิจบริการ ในด้านท่องเที่ยว เกษตรทฤษฏีใหม่ เช่น ศูนย์การเรียนรู้ ที่เชื่อว่าหากสอดแทรกผลิตภัณฑ์หรือบริการเข้าไปได้ จะช่วยสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการได้มากขึ้น”