ททท.ชงเพิ่มพื้นที่แซนด์บ็อกซ์แก้ลำเลื่อนTest & Go ดันเราเที่ยวด้วยกันเฟส4

06 ม.ค. 2565 | 05:00 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ม.ค. 2565 | 14:53 น.

ททท.แก้ลำไทยชะลอการเดินทางเข้าประเทศ ด้วยระบบ Test & Go ชงศบค.เพิ่มพื้นที่แซนด์บ็อกซ์เปิดทางรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ทั้งเสนอสภาพัฒน์ขอกันงบ 1.32 หมื่นล้านบาท คิกออฟ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 ” ดีเดย์ 1 กุมภาพันธ์นี้

การแพร่ระบาดของ “โอมิครอน” ส่งผลให้ไทยต้องชะลอการเดินทางเข้าประเทศ ด้วยระบบ Test & Go ออกไปอีก จากก่อนหน้านี้ที่ได้ระงับการลงทะเบียนผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักรประเภท Test & Go และแซนด์บ็อกซ์เป็นการชั่วคราว ยกเว้นภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์และการเข้ามาแบบกักตัว เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค.2564-4 ม.ค.2565 แต่เพื่อให้การท่องเที่ยวยังคงพอเดินต่อไปได้บ้าง ททท.ได้เตรียมเสนอเพิ่มพื้นที่แซนด์บ็อกซ์ รวมถึงการเดินหน้ากระตุ้นไทยเที่ยวไทย ผ่านโครงการ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 4”

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การแพร่ระบาดของโอมิครอน ชัดเจนว่าเป็นการนำเชื้อเข้ามาจากต่างประเทศ ดังนั้นหากประเทศไทยมีการควบคุมได้ดี ความเสี่ยงก็จะลดน้อยลง การที่กระทรวงสาธารณสุขได้เสนอต่อ ศบค.ในวันที่  7  มกราคมนี้ ให้พิจารณาเลื่อนการเปิดรับนักท่องเที่ยวรายใหม่ในระบบ Test & Go ออกไปอีกระยะหนึ่ง ททท.ก็เข้าใจ แต่ขณะเดียวกันก็มีผู้ประกอบการท่องเที่ยวในบางพื้นที่ก็ต้องการเปิดรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างประเทศได้ เหมือนภูเก็ต โดยเฉพาะในพื้นที่เกาะต่างๆ เช่น สมุย

 

ยุทธศักดิ์ สุภสร

ปัจจุบันมีพื้นที่เกาะในจังหวัดต่างๆเสนอตัวที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ได้แก่ 1.จังหวัดสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า) 2.จังหวัดชลบุรี (เกาะล้าน) 3.จังหวัดระยอง (เกาะเสม็ด) 4.จังหวัดตราด (เกาะช้าง และเกาะกูด) 5.จังหวัดพังงา (เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่ ไม่รวมเขาหลัก) และ 6.จังหวัดกระบี่ (เช่น เกาะพีพี) ซึ่งจะพิจารณาให้นักท่องเที่ยวเดินทางตามเส้นทางที่กำหนด (Sealed Route) เช่น เมื่อเดินทางมาถึงสนามบินภูเก็ต ก็สามารถต่อเรือตรงเข้าเกาะพีพีได้ทันที

แม้เกาะต่างๆจะเสนอตัวเข้ามา แต่สิ่งที่ต้องพิจารณาประกอบกัน คือ ดีมานต์ในการเดินทางของนักท่องเที่ยว รวมถึงระบบโลจิติกส์ในการเดินทางเข้าพื้นที่ด้วย ที่ต้องพิจารณาให้สอดคล้องกับการควบคุมโรคด้วย

 

ด้านนายศิริปกรณ์ เชียวสมุทร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่าในการประชุมศบค.ชุดใหญ่ในวันที่ 7 มกราคมนี้ ททท.เตรียมจะเสนอเพิ่มพื้นที่แซนด์บ็อกซ์ ที่จะขออนุมัติให้เปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศได้เพิ่มเติมจากภูเก็ต คือพื้นที่เกาะสมุย เกาะเต่า เกาะพะงัน จ.สุราษฏร์ธานี ,พังงา และ กระบี่ เนื่องจากเป็นพื้นที่เกาะ สามารถบริหารจัดการการเข้า-ออกของนักท่องเที่ยวได้ง่ายเช่นเดียวกับภูเก็ต 

 

นอกจากนี้ศบค.ยังจะต้องมีการพิจารณาว่าจะขยายการระงับการเดินทางเข้าไทยในแบบTest & Go ไปถึงสิ้นเดือนมกราคมนี้ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอหรือไม่ หรือจะชลอไปถึงเมื่อไหร่ รวมถึงข้อเสนอที่จะขอให้ผู้ที่ได้รับอนุมัติการเดินทางแบบ Test & Go ไปแล้ว ให้เดินทางเข้าไทยภายในวันที่ 10 ม.ค.นี้เป็นวันสุดท้าย ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศบค. และททท.อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลว่ามีผู้เดินทางที่ได้ Thailand Pass ในแบบ Test & Go ที่ยังไม่ได้เดินทางเข้าไทยอีกจำนวนกี่ราย

 

สำหรับความคืบหน้าของโครงการ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 4” นายยุทธศักดิ์ กล่าวต่อว่า ททท.ได้ส่งหนังสือถึงสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อขออนุมัติดำเนินโครงการ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 4” หลังจากครม.มีมติเห็นชอบเดินหน้าโครงการ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 4” และขยายระยะเวลาการใช้สิทธิ์โครงการ “ทัวร์เที่ยวไทย” ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน

 

ททท.ชงเพิ่มพื้นที่แซนด์บ็อกซ์แก้ลำเลื่อนTest & Go ดันเราเที่ยวด้วยกันเฟส4

เบ็ดเสร็จแล้วจะเป็นการเพิ่มห้องพักอีกจำนวน 2 ล้านสิทธิ์ ใช้งบประมาณ 13,200 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ททท.เสนอเพิ่มสิทธิ์ห้องพัก 1 ล้านสิทธิ์ ใช้งบ 1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการขอใช้งบเงินกู้ 5 แสนล้านบาท  โดยการใช้สิทธิ์เราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 ททท.ได้เสนอให้มีการสแกนใบหน้าของผู้ใช้สิทธิ์ตอนเช็คเอ้าท์ด้วย เพิ่มเติมจากการสแกนใบหน้าตอนเช็คอิน เพื่อให้เกิดความรัดกุมในการใช้สิทธิ์เพิ่มขึ้น 

 

ทั้งนี้จากการหารือเบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มโครงการได้ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เพื่อให้สิ้นสุดโครงการในวันที่ 30 เมษายน 2565  โดยคาดว่าจะเปิดระบบให้ลงทะเบียนได้ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมกราคมนี้ ซึ่งในขณะนี้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวก็กำลังรอให้โครงการนี้เดินหน้าอยู่  และกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์นี้   ที่ผ่านมา “เราเที่ยวด้วยกัน” ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดี และที่ผ่านมา “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3” ก็มีการใช้สิทธิ์จนเต็มก่อนกำหนดเวลาสิ้นสุดโครงการเสียอีก

 

สำหรับในส่วนของโครงการ “ทัวร์เที่ยวไทย” ก็จะมีการขยายเวลาการใช้สิทธิ์จากเดิมที่สิ้นสุดในวันที่ 31 มกราคม 2565 ไปเป็นวันที่ 30 เมษายน 2565 ซึ่งโครงการนี้ยอมรับว่ามีผู้สนใจใช้สิทธิ์น้อย ซึ่งจากข้อมูล ณ วันที่ 3 มกราคม 2564 พบว่า มีการเดินทางผ่านบริษัทนำเที่ยวแล้ว 1.3 หมื่นคน จากสิทธิ์ที่มีจำนวน 1 ล้านสิทธิ์ มียอดเงินใช้จ่ายสะสม 151 ล้านบาทเท่านั้น จากวงเงินในโครงการนี้ที่กันไว้ 5 พันล้านบาท ซึ่งเงินก้อนนี้ใช้งบเงินกู้1 ล้านล้านบาท ถ้าใช้ไม่หมดก็ต้องคืนสภาพัฒน์ไป