วันนี้(วันที่ 28 ก.พ.2565) เวลา 18.05 น. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เที่ยวบินปฐมฤกษ์ของสายการบินซาอุเดีย แอร์ไลน์เที่ยวบิน SV846 บินตรงจากเมืองเจดดา - กรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ได้เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร กระชับความสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบียกับไทยอย่างเป็นทางการในรอบ 32ปี
โดยเที่ยวบินดังกล่าว ได้นำคณะนักท่องเที่ยวชาวซาอุดีอาระเบีย เดินทางเข้าราชอาณาจักรไทย จำนวน 56 คน เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย Mr. Almusaed Musaed Muhammed, Assistant Vice President of International Regions สายการบินซาอุเดียแอร์ไลน์
นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. และนายเดชา ปิ่นอารีย์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริการผู้โดยสาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)ร่วมต้อนรับและอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารที่เดินทางมากับเที่ยวบินจำนวน 71 คน ให้ได้รับความสะดวกในการผ่านขั้นตอนการเดินทางเข้าประเทศไทย และเป็นไปตามมาตรการการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
บรรยากาศการต้อนรับเป็นไปอย่างอบอุ่น โดยเมื่อเครื่องบินแบบโบอิ้ง 789 เที่ยวบินที่ SV846 บินลงรันเวย์และกำลังเคลื่อนตัวเข้าหลุมจอด G5 ของสนามบิน เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานสุรรณภูมิจัดรถดับเพลิง 2 คัน ซ้าย-ขวาฉีดน้ำสร้างอุโมงค์น้ำให้การต้อนรับ และเมื่อผู้โดยสารทั้งหมดผ่านขั้นตอนการเดินทางเข้าประเทศไทย
ททท.ได้จัดการแสดงโขน ตอนยกรบ ให้ชม ที่บริเวณ โถงผู้โดยสารขาเข้า โซนB พร้อมมอบของที่ระลึกพิเศษให้แก่ผู้โดยสารที่เดินทางมากับเที่ยวบินดังกล่าว ก่อนเดินทางไปยังโรงแรมที่พัก
ทั้งนี้นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การเปิดเส้นทางบินครั้งแรกในรอบ 32 ปี จากกรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย - กรุงเทพฯ ถือเป็นนิมิตหมายอันดีในการเชิญชวนและส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวชาวซาอุดีอาระเบียเดินทางมาท่องเที่ยว คาดว่าเที่ยวบินตรงนี้ จะเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดสำหรับความสำเร็จในการส่งเสริมการเดินทางมายังประเทศไทย ช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางอื่นๆ ได้อย่างสะดวก ลดเวลาและประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
ตลอดจนเป็นโอกาสต่อยอดในการขยายตลาดนักท่องเที่ยวขนาดใหญ่ เช่น ยุโรปและตะวันออกกลาง สำหรับเที่ยวบินตรง SV846/847 เส้นทางเจดดาห์ - กรุงริยาด - ทสภ. - กรุงริยาด - เจดดาห์ จะทำการบินสัปดาห์ละ 3 วัน ทุกวันอังคาร พฤหัสบดี และเสาร์ เวลาตามตารางการบินขาเข้า 16.55 น. และเวลาตามตารางการบินขาออก 00.15 น. ของวันถัดไป
นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. เผยว่า ด้วยความร่วมมือระหว่างสายการบิน Saudia Airlines จะทำการบินมายังประเทศไทยจำนวน 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ (วันจันทร์-พุธ-ศุกร์) ด้วยเครื่องบินแบบโบอิ้ง (Boeing) 789 จำนวน 298 ที่นั่ง เริ่มเปิดเส้นทางบินตรง ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป
ททท. คาดว่าเที่ยวบินตรงนี้ จะเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดสำหรับความสำเร็จในการส่งเสริมการเดินทางมายังประเทศไทย ช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางอื่นๆ ได้อย่างสะดวก ลดเวลาและประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ตลอดจนเป็นโอกาสต่อยอดในการขยายตลาดนักท่องเที่ยวขนาดใหญ่ เช่น ยุโรปและตะวันออกกลาง
ไม่เพียงเท่านั้น ททท. จะผลักดันแคมเปญสื่อสารตลาดต่างประเทศ Visit Thailand Year 2022 : Amazing New Chapters ที่สอดคล้องกับโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio - Circular - Green Economy) โดยเสนอมุมมองใหม่ผ่านสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว 3 กลุ่มหลัก คือ สุขภาพ (Medical และ Health and Wellness) ทะเล (Beaches) และช้อปปิง (Shopping) เพื่อยกระดับภาพลักษณ์ และแลกเปลี่ยนการส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างกัน
โดยจะมุ่งเน้นเรื่องความสะดวกสบายในการเดินทาง (Ease of Travelling) พร้อมขยายกลุ่มเป้าหมายเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคนรุ่นใหม่ (Millennials) กลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางครั้งแรก (First Visit) กลุ่มรักษาพยาบาลและดูแลสุขภาพ (Medical และ Health and Wellness) และกลุ่มครอบครัว (Family)
นอกจากนี้ ททท.จะหารือกับพันธมิตร ทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดรูปแบบ B2B (Business to Business) และ B2C (Business to Customer) อาทิ การจัดกิจกรรม Tradeshow Roadshow และ Consumer Fair รวมทั้ง Joint Promotion ร่วมกับพันธมิตร มอบสิทธิพิเศษให้แก่นักท่องเที่ยว เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางมากยิ่งขึ้น
สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบีย ถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญในการขับเคลื่อนและขยายฐานนักท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยสถิติปี 2562 พบว่า มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวซาอุดีอาระเบีย เดินทางมาประเทศไทย 36,783 คน สร้างรายได้กว่า 3,220.15 ล้านบาท ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มรักษาพยาบาล มีพฤติกรรมและรูปแบบกิจกรรมท่องเที่ยวยอดนิยม
ได้แก่ แหล่งท่องเที่ยวชาดหาด-ชายทะเล การเข้ารักษาพยาบาลหรือการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical และ Health and Wellness) และกิจกรรมช้อปปิง และจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต พัทยา พังงา กระบี่ เกาะสมุย และเชียงใหม่