NUSA เปิดโต๊ะแถลง ปมซื้อโรงแรมเยอรมนี-ร่วมทุนมอร์ มันนี่
NUSA เปิดโต๊ะชี้แจงปมซื้อโรงแรมเยอรมนี-ร่วมทุนมอร์ มันนี่ ยันซื้อขายถูกต้องตามกฎหมาย ลุ้นคู่สัญญาจ่ายหนี้ 57.5 ล้านบาท เล็งเพิ่มทุน PP แตะ 1.3 หมื่นล้านบาท
นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริจํากัด (มหาชน) หรือ NUSA เปิดเผยถึงกรณีที่ชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ถึงการเข้าซื้อหุ้นโรงแรงเยอรมนีว่า สำหรับรายการเข้าซื้อโรงแรมที่เยอรมนีนั้นเป็นการเปลี่ยนเป็นเงื่อนไขการซื้อเดิมจากการซื้อทรัพย์สิน (โรงแรม รวมถึงสิทธิในใบรับรองใบอนุญาตต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจโรงแรม
ทั้งนี้การซื้อขายดังกล่าว มีผู้ตรวจสอบที่เชื่อถือได้จริงและเห็นว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นประโยชน์ที่สามารถลงทุนในเยอรมันได้จริง โดยมีการออกใบอนุญาตที่ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศเยอรมัน รวมตลอดถึงสิทธิ ลิชสิทธิ์ ทรัพย์สินทางปัญญา เครื่องหมายการค้า ตราสินค้าของทรัพย์สินที่ซื้อขาย) เป็นการเข้าซื้อหุ้นในบริษัท พานาซี แฟร์วาลทุงส์ จึเอ็มบีเฮช จำกัด (PNCV) ผู้ถือหุ้นใน บริษัท บาดิชเชอร์ โฮเทลแฟร์วัลทุงส์ จีเอ็มบีเฮช จำกัด (BHV) (เป็นเจ้าของทรัพย์ตาม สัญญาซื้อทรัพย์สินเดิม)
สำหรับสาเหตุที่บริษัทฯ ไม่รับเงินมัดจำคืนทันที เนื่องจาก ผู้ขายหุ้นใน PNCV คือบุคคลเดียวกับผู้ขายทรัพย์เดิม และปัจจุบันบริษัทได้รับการโอนกรรมสิทธิในหุ้น PNCV (เจ้าของโรงแรม) มาเป็นของบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว9
นายวิษณุ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีรายการเกี่ยวกับบริษัท มอร์ มันนี่ เอ็นเตอร์เทนเมันท์ จำกัด ในธุรกิจจัดคอนเสิร์ต Rolling Loud Thailand นั้น ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมาบริษัทได้ถอนหุ้นจากบริษัทมอร์ มันนี่เนื่องจากบริษัทเล็งเห็นว่าการลงทุนดังกล่าวอาจไม่เหมาะสมกับการดำเนินงานของบริษัท ทำให้ในปัจจุบันทางบริษัทได้รับชำระค่าหุ้นคืนจากบริษัท มอร์ มันนี่ จำนวน 1.5 ล้านบาทแล้ว ยังคงเหลืออีกจำนวน 57.5 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 ยอด ดังนี้ ยอดชำระ 7.5 ล้านบาท จะครบกำนดชำระภายในวันที่ 29 ก.ค.นี้ และยอดชำระ 50 ล้านบาท ครบกำหนดชำระภายในกลางเดือนส.ค.2566
นอกจากนี้ทางบริษัทมอร์ มันนี่ ได้แจ้งต่อบริษัทขอใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบรายการค่าใช้จ่ายต่างๆใน การจัดคอนเสิร์ต Rolling Loud Thailand 2023 ยังไม่แล้วเสร็จ ทางบริษัทมอร์ มันนี่ จึงขอขยายระยะเวลา ออกไปอีก 90 วัน ทั้งนี้บริษัทยังมีการคิดดอกเบี้ยในเงินส่วนที่ให้มีการขยายระยะเวลาดังกล่าวด้วย
นายวิษณุ กล่าวต่อว่า ขณะที่ความสามารถของกลุ่มบริษัทในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง กรณีเจ้าหนี้ค่างานก่อสร้างของบริษัทณุศา เลเจนด์ สยาม จำกัด (Legend Siam) โดย China International Economic and TradeArbitration Commission มีคำชี้ขาดข้อพิพาทให้บริษัทชำระหนี้ของ Legend Siam ซึ่ง ณุศา ถือหุ้นเพียง 50% นั้น ข้อพิพาทในการชำระหนี้ดังกล่าว ยังไม่เป็นเหตุให้ผิดนัดในมูลหนี้อื่น เนื่องจากยังไม่มีคำสั่งศาลเป็นที่สิ้นสุด โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างนัดสืบพยานทั้งสองฝ่ายในศาลแพ่ง
ปัจจุบันมีแผนการออกหุ้นเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจํากัด (PP) ในวงเงิน 13,000 ล้านบาท เพื่อแลกการเข้าถือหุ้นใน บริษัท วินด์เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) กับกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ WEH ซึ่งยู่ระหว่างการศึกษาของที่ปรึกษาและการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่คณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุป จึงยังไม่ได้นําเสนอเพื่อขออนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทแต่อย่างใด
สำหรับแผนการเพิ่มทุนแก่บุคคลในวงจํากัด (PP) ในวงเงินประมาณ 13,000 ล้านบาท ซึ่งจะเพียงพอในการชำระหนี้ของ Legend Siam ให้กับ China International Economic and Trade Arbitration Commission ที่มีคำชี้ขาดข้อพิพาทให้บริษัทชำระหนี้ดังกล่าว