รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2565 ที่ผ่านมา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เป็นประธานประชุมคณะกรรมการเตรียมการเปิดให้บริการและการบริหารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กิโลเมตร (กม.) และสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กม. ครั้งที่ 2/2565 นั้น
เบื้องต้นคณะอนุกรรมการด้านราคาค่าโดยสารและบัตรโดยสาร ได้รายงานผลการดำเนินงานพิจารณารูปแบบการคิดคำนวณค่าโดยสาร โดยเปรียบเทียบกับวิธีการของรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง และการใช้บัตรโดยสารร่วม โดยในส่วนของอัตราค่าโดยสารนั้น จากการคำนวณของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง เบื้องต้นจากข้อมูลเมื่อปี 2559 จะจัดเก็บในอัตรา 14-42 บาท ซึ่งเมื่อเปิดให้บริการแบบเก็บค่าโดยสารต้องพิจารณาจากดัชนีผู้บริโภค (CPI) กรณีใช้ CPI ล่าสุด หรือ ก.ย. 2565 (หากเปิดเดินรถใน ธ.ค. 2565) โดยเปรียบเทียบกับวิธีการของรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง อัตราค่าโดยสารจะอยู่ที่ 15-45 บาท
ส่วนรถไฟฟ้าสายสีชมพู จากข้อมูลเมื่อปี 2559 จะจัดเก็บในอัตรา 14-42 บาท ซึ่งเมื่อเปิดให้บริการแบบเก็บค่าโดยสารต้องพิจารณาจากดัชนีผู้บริโภค (CPI) กรณีใช้ CPI เม.ย. 2566 (หากเปิดเดินรถใน ก.ค. 2566) โดยเปรียบเทียบกับวิธีการของรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง อัตราค่าโดยสารจะอยู่ที่ 15-45 บาทเช่นเดียวกัน
สำหรับบัตรโดยสาร จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ประกอบด้วย 1.ประเภทบัตรโดยสารเที่ยวเดียว (Single Journey Card) ซึ่งจะคิดอัตราค่าโดยสารคิดตามระยะทาง โดยออกบัตรที่เครื่องจำหน่ายบัตรโดยสารอัตโนมัติ และที่ห้องจำหน่ายบัตรโดยสาร อีกทั้งรองรับการออกบัตรโดยสารเที่ยวเดียวสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งออกบัตรที่ห้องจำหน่ายบัตรโดยสาร
ทั้งนี้ บัตรใช้เดินทางภายในวันเดียวกับวันที่ออกบัตร และสามารถใช้เดินทางเชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้า สายสีชมพู สีเหลือง และสีเขียว สำหรับผู้ที่ได้รับการยกเว้นค่าโดยสาร ได้แก่ ผู้พิการ (แสดงบัตรผู้พิการที่ออกโดยหน่วยงานราชการ), เด็กเล็ก (อายุไม่เกิน 14 ปี สูงไม่เกิน 90 เซนติเมตร) สามารถขอรับบัตรเดินกางที่ห้องจำหน่ายบัตรโดยสาร
2.ประเภทบัตร EMV Contactless ซึ่งในขณะนี้ อยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบ และพัฒนาระบบ Software ให้รองรับมาตรฐานบัตร EMV คาดว่า จะใช้บริการได้ในช่วงต้นปี 2566
3.ประเภทบัตรโดยสารในการเดินทางร่วม ซึ่งในอนาคตจะสามารถใช้ร่วมกับรถไฟสายสีแดง รวมถึงบัตรโดยสารรายเดือนด้วย อีกทั้งใช้ร่วมกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และสายสีม่วงได้อีกด้วย
ทั้งนี้ในปัจจุบันรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง มีความคืบหน้าการก่อสร้าง 96.79% ได้รับมอบขบวนรถไฟฟ้าแล้ว 29 ขบวน จากทั้งหมด 30 ขบวน ส่วนรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี มีความคืบหน้า 92.28% ได้รับมอบขบวนรถไฟฟ้าแล้ว 34 ขบวน จากทั้งหมด 42 ขบวน
อย่างไรก็ตามทั้ง 2 เส้นทาง มีแผนเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปี 2566 ปัจจุบันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างจัดทำ Proof of Safety เพื่อตรวจสอบและประเมินความพร้อมของงานโยธาและงานระบบไฟฟ้าทั้งหมดของโครงการ ก่อนที่วิศวกรอิสระ (ICE) จะออกหนังสือรับรองความปลอดภัย เพื่อเปิดให้บริการให้แก่ประชาชนต่อไป