นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า ปี2566นี้ กรมฯ สำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยในประเทศต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ถึงเทรนด์ขนมที่กำลังมาแรงในตลาดสหรัฐฯ และรสชาติยอดนิยมโดนใจชาวอเมริกันปี 2566 และลู่ทางในการผลักดันสินค้าขนมของไทยเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ
โดยเห็นได้จากช่วง 10 เดือนของปี 2565 ที่ยอดขายของขนมขบเคี้ยวในสหรัฐฯ อยู่ที่ประมาณ 44,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 11.4% มาแรงแซงยอดขายอาหารและเครื่องดื่มประเภทอื่น ๆ ซึ่งขนมกรุบกรอบรสเค็ม
เช่น มันฝรั่งทอด เพรทเซล และป๊อปคอร์นพร้อมรับประทาน มียอดขายมากที่สุด สัดส่วน 59.3% รองลงมา ได้แก่ ขนมประเภทคุกกี้ สัดส่วน 18.6% ขนมประเภทแครกเกอร์ สัดส่วน 15.3% และขนมประเภทกราโนล่าบาร์ สัดส่วน 12.9%
สำหรับรสชาติที่เป็นที่นิยมในตลาดสหรัฐฯ มีผลสำรวจจากบริษัท T. Hasegawa ซึ่งเป็นบริษัทผลิตผงปรุงรสและกลิ่นปรุงแต่งสัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 2,000 คนทั่วโลก พบว่า ผู้บริโภคกว่า 55% ให้ความสนใจกับขนมรสชาติ Hot Honey ซึ่งรสชาติดังกล่าวเริ่มมาแรงในตลาดสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2561 และมีแนวโน้มว่าจะยังคงเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคสหรัฐฯ ต่อไป
ส่วนปี 2566 รสชาติขนมที่น่าจะมาแรงในสหรัฐฯ จากการสำรวจของ Institute of Food Technologies (IFT) ได้แก่ รสชาติที่มีความผสมผสานระหว่างความเผ็ดและความหวาน (Sweet Plus Heat) โดยพบว่า เมนูขนมในสหรัฐฯ มีรสชาติที่มีความผสมผสานระหว่างความเผ็ดและความหวานเพิ่มขึ้นถึง 138% ซึ่งรสชาติในรูปแบบนี้ที่เห็นได้ตามท้องตลาดสหรัฐฯ เช่น รส Dark Chocolate and Chili Pepper และ รส Chili infused honey , maple หรือ syrups
ส่วนรสชาติที่น่าจะมาแรงในปี 2566 ได้แก่ รสชาติที่แสดงถึง Street Food โดยรสชาติ Street Food Mexican เช่น ข้าวโพดย่างราดด้วยมายองเนส ชีส cotija พริก มะนาว และผักชี ได้รับความนิยมอย่างมากในสหรัฐฯ ในปีที่ผ่านมา และยังพบว่ารสชาติ Street Food ที่มีความผสมผสานของมะม่วงและพริกของอินเดีย เช่น รส Chaat Masala ก็เริ่มที่จะได้รับความนิยมในสหรัฐฯ เช่นกัน