หลังจากกรณี “ครูกายแก้ว” หลายเป็นกระแสที่สังคมกำลังให้ความสนใจ โดยมีการนำเสนอเกี่ยวกับการอัญเชิญรูปหล่อขนาดใหญ่ของครูกายแก้ว ที่ประชาชนจำนวนมากเชื่อว่าเป็นบรมครูผู้เรืองเวทย์ ไปไว้ที่หน้าโรงแรมเดอะบาซาร์ บริเวณแยกรัชดา-ลาดพร้าว กรุงเทพฯ รวมทั้งยังมีการจัดทำเหรียญครูกายแก้วแจกฟรีจำนวนหนึ่งนั้น
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ออกมาแจ้งเตือนว่า ที่ผ่านมาพบว่ามีการนำเหรียญ ไปโฆษณาขายและปั่นราคาไปหลายหมื่นบาท ทำให้ประชาชนบางรายหลงเชื่อและซื้อจำนวนมาก จนมีการวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งในแง่บวกและแง่ลบหลายกรณี
ทั้งนี้ สคบ. ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภค มีบทบาทที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายและการโฆษณาสินค้าประเภทเครื่องราง ของขลัง หรือบริการเกี่ยวกับสินค้าลักษณะเดียวกัน โดยเหรียญครูกายแก้วหากเป็นสินค้าที่ผลิตเพื่อขายโดยโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภคต้องดำเนินการ ดังนี้
ด้านฉลาก : ต้องจัดทำฉลาก ให้ผู้บริโภคทราบข้อเท็จจริงในสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้า ใช้ข้อความตรงต่อความจริงไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญของสินค้า และต้องระบุข้อความอันจำเป็น เช่น ชื่อผู้ผลิต สถานที่ผลิต ราคาขาย
ด้านการโฆษณา : สคบ. ได้ยกร่างกฎกระทรวงกำหนดข้อความโฆษณาเครื่องราง ของขลังหรือบริการ ที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค หรือที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม พ.ศ. ....
โดยมีสาระสำคัญคือ มีการกำหนดคำนิยามเครื่องรางของขลังซึ่งการจัดทำเหรียญครูกายแก้ว อาจถือเป็นเครื่องราง หรือของขลังตามคำนิยาม รวมทั้งกำหนดให้การโฆษณาที่เชิญชวนให้ซื้อเครื่องราง ของขลัง หรือรับบริการ โดยอาศัยความเชื่อหรือศรัทธาส่วนบุคคลซึ่งไม่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยหลักเหตุผล หรือกระบวนการพิสูจน์ที่เป็นที่ยอมรับเป็นข้อความที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค หรืออาจก่อให้เกิดผลเสียหายต่อสังคมส่วนรวม ดังนี้
สำหรับร่างกฎกระทรวงฉบับนี้อยู่ระหว่างประกาศรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและประชาชนทั่วไป กำหนดสิ้นสุดในวันที่ 23 สิงหาคม 2566 นี้ สคบ. จึงขอเชิญชวนผู้ที่เกี่ยวข้องและประชาชนแสดงความคิดเห็นหรือวิพากษ์วิจารณ์ร่างกฎกระทรวงฉบับดังกล่าวได้ที่เว็บไซต์ของ สคบ.
อย่างไรก็ตามกรณีที่มีการโฆษณาฝ่าฝืน พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติมมีความผิดทางอาญา คือ โทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ