“เศรษฐา” ถกผู้ว่าฯ ธปท. นโยบายแจกเงินดิจิทัล ทำผ่านบล็อกเชน ก.พ.67

07 ก.ย. 2566 | 03:55 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ก.ย. 2566 | 01:30 น.

นายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน” รับคุย ผู้ว่าฯ ธปท. ถึงนโยบายแจกดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท พร้อมเห็นเป็นเรื่องที่ดี แต่จะต้องมีการพูดคุยให้เกิดความชัดเจน ยืนยันทำแน่ผ่านบล็อกเชน ก.พ.67

วันนี้ (7 กันยายน) ที่พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึง นโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) ว่า ขณะนี้ได้หารือกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งได้ให้ข้อคิดกับรัฐบาลมาหลายเรื่อง

ทั้งนี้ผู้ว่าฯ ธปท. ให้คำแนะนำว่า หากรัฐบาลจะดำเนินนโยบายแจกดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ในระยะกลางและระยะยาวจะส่งผลต่อระบบการเงินการคลังของประเทศอย่างไร เช่น ตัวเลขหนี้สาธารณะ จะขึ้นจะลงอย่างไร ซึ่งผู้ว่าฯธปท. เห็นด้วยว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่จะต้องมีการพูดคุยให้เกิดความชัดเจน ไม่อยากให้มีการพูดกันไปเอง 

“ผู้ว่าฯ ธปท.ให้ขอคิดและมาเคลียร์กันหลายเรื่อง และแนะนำว่า ถ้าออกนโยบายไปแล้วระยะกลางและระยะยาวของประเทศ ระบบการเงินการคลังจะเป็นลักษณะใด”

นายเศรษฐา กล่าวว่า นโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท มีแนวทางการใช้เงินผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) อย่างแน่นอน โดยผู้สื่อข่าวถามจะให้ความมั่นใจกับประชาชนว่านโยบายนี้จะใช้ได้ภายในไตรมาสแรก ปี 2567 ได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ตอบสั้น ๆ ว่า “ใช่ครับ”

 

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ส่วนกรณีที่สื่อบางสำนักอ้างถึงการยืมเงินรัฐวิสาหกิจมาดำเนินนโยบายว่า ตอนนี้ไม่อยากให้มีการพูดคุยกันไปหลายอย่าง จนทำให้เกิดความสับสน อีกทั้งยังไม่ได้เข้าบริหารงานอย่างเป็นทางการ อยากให้มีการแถลงนโบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาก่อน และขอให้ใจเย็น ๆ ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงการพูดคุยกับภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อเก็บข้อมูลก่อน

 

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ทั้งนี้ที่ผ่านมาในการประชุม สส. ของพรรคเพื่อไทย ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมประชุมด้วยนั้น ได้มีการระบุถึงนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ซึ่งเบื้องหลังก็ได้ประสานกับหน่วยงานทุกหน่วยงาน เพื่อให้นโยบายนี้ออกมาโดยเร็ว ยืนยัน จะแจกเงินหนเดียว และคิดว่าจะทำได้ภายใน 1 กุมภาพันธ์ 2567