คมนาคม ชงตั้งคณะกรรมการโรดโชว์โปรโมท “แลนด์บริดจ์” ทั่วโลก

08 พ.ย. 2566 | 06:33 น.
อัปเดตล่าสุด :08 พ.ย. 2566 | 07:01 น.

คมนาคม ชงนายกฯ เดือนพฤศจิกายน 2566 นี้ ตั้งคณะกรรมการโรดโชว์ “แลนด์บริดจ์” โปรโมทโครงการทั่วโลก ทั้ง ยุโรป เอเชีย อเมริกา และตะวันออกกลาง คาดเริ่มได้ทันทีเริ่มต้นในปีนี้ถึงปีหน้า

นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า ความคืบหน้าโครงการสะพานเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย -อันดามัน (ชุมพร-ระนอง) หรือแลนด์บริดจ์ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอกระทรวงคมนาคมเสนอต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการโรดโชว์ของโครงการแลนด์บริดจ์ คาดจะเสนอให้นายกฯเห็นชอบได้ภายในเดือนพฤศจิกายน 2566 นี้

ทั้งนี้ สนข.มีแผนจะไปโรดโชว์ต่างประเทศ ทั้ง ในแถบทวีปยุโรป, เอเชีย, อเมริกา และตะวันออกกลาง เช่น จีน, เกาหลี, ญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกา, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, สวิตเซอร์แลนด์, ซาอุดิอาระเบีย และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นต้น

โดยการโรดโชว์ในครั้งนี้ จะมุ่งเน้นที่ผู้ประกอบการสายการเดินเรือขนาดใหญ่ ผู้ประกอบการบริหารจัดการท่าเรือ รวมทั้งกลุ่มผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมที่มีเงินทุนและมีเทคโนโลยีที่จะช่วยพัฒนาโครงการฯต่อได้ ซึ่งระยะเวลาในการโรดโชว์จะเริ่มดำเนินการได้ภายในเดือนพฤศจิกายน 2566 - มกราคม 2567

ส่วนการเวนคืนที่ดินของโครงการแลนด์บริดจ์นั้น เบื้องต้นจะดำเนินการเวนคืนที่ดินทั้งฝั่งรถไฟและทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ความกว้าง 80-100 เมตร ตลอดแนวเส้นทาง ขณะที่พื้นที่ทั้ง 2 ฝั่งท่าเรือจะดำเนินการถมทะเล ซึ่งมีพื้นที่บริเวณทางเข้า-ออกที่ต้องเวนคืนที่ดินบ้างเล็กน้อย

“ปัจจุบันยังไม่ทราบรายละเอียดพื้นที่ที่จะเวนคืนที่ดินชัดเจน เนื่องจากต้องรอออกพระราชกฤษฎีกาการเวนคืนที่ดิน (พ.ร.ฎ. เวนคืนที่ดิน) มีผลบังคับใช้ หลังจากนั้นต้องรอคณะกรรมการสำรวจอสังหาริมทรัพย์เพื่อประเมินราคาที่ดินก่อน ถึงจะดำเนินการได้”

ขณะที่กรณีที่ชาวบ้านจังหวัดชุมพรคัดค้านการก่อสร้างโครงการแลนด์บริดจ์ เพราะกังวลว่าจะได้รับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและพื้นที่ทำกินนั้น เบื้องต้นต้องมีการพูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้นว่าจะดำเนินการอย่างไร ต้องยอมรับว่าโครงการขนาดใหญ่มักจะสร้างปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว ซึ่งจะต้องใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อลดปัญหาสิ่งแวดล้อมให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด โดยจะเปิดรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 2 ภายในเดือนธันวาคม 2566 นี้ 

หลังจากนั้นจะเปิดรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 3 ภายในเดือนมีนาคม 2567 เพื่อจัดทำรายงานรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) คาดว่าผลการศึกษาของโครงการฯจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปลายปี 2567