22 ม.ค. 2567 ที่ท่าเรืออเนกประสงค์ จ.ระนอง เวลา 10.00 น. นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกรณี น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนรายงานการศึกษาแลนด์บริดจ์ ว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน สภาผู้แทนราษฏร (กมธ.แลนด์บริดจ์) ได้ประชุมกันมาแล้ว 10 ครั้ง มีหน่วยงานต่างๆ เข้าชี้แจง 50 ครั้ง
การขอให้ทบทวนรายงานดังกล่าว ถือเป็นความเห็นของสมาชิกส่วนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งใน กมธ. มีคนคัดค้านเพียงแค่ 2 เสียง หลังจากนี้ จะส่งร่างรายงานผลการศึกษาเข้าไปให้สภาฯ พิจารณา สมาชิกแต่ละคนสามารถแสดงความคิดเห็นกันได้อย่างกว้างขวาง สามารถเพิ่มประเด็นและตั้งข้อสังเกตต่างๆ เพิ่มเข้าไปได้ และหากที่ประชุมสภาให้ความเห็นชอบ ก็จะส่งไปให้รัฐบาลเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อ
ส่วนกรณีที่ น.ส.ศิริกัญญา ตั้งข้อสังเกตว่ารายงานดังกล่าวไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่รัฐบาลจะดำเนินการ เช่น เรื่องท่อส่งน้ำมันนั้น ประเด็นเรื่องท่อน้ำมันอยู่ในข้อพิจารณาของ กมธ. น.ส.ศิริกัญญาอาจไปดูความเห็นเดิมที่ไม่ใช่ข้อมูลปัจจุบัน
หากเราจะใช้ความเห็นเดิมรัฐบาลชุดที่แล้ว คงไม่ต้องมีการตั้ง กมธ.แลนด์บริดจ์ ในรัฐบาลชุดปัจจุบัน
“หากเราจะใช้ความเห็นเดิมรัฐบาลชุดที่แล้ว คงไม่ต้องมีการตั้ง กมธ.แลนด์บริดจ์ ในรัฐบาลชุดปัจจุบัน การที่เราตั้ง กมธ. เพราะต้องการความคิดเห็นในปัจจุบัน ไม่เช่นนั้นเราคงหยิบร่างเดิมมาพิจารณา วันนี้โลกเปลี่ยนไป ความต้องการประชาชนเปลี่ยนไป ขอยืนยันว่ารัฐบาลรับทราบทั้งความเห็นด้วยและความเห็นต่าง โดยเฉพาะความเห็นต่าง เราจะรับฟังให้มากที่สุด” นางมนพร รมช.คมนาคม ยังกล่าวด้วยว่า รัฐบาลยินดีรับฟังว่า ประชาชนต้องการอะไร หรือสิ่งที่เขาจะต้องได้รับชดเชย เช่นที่อยู่อาศัย ประมงพื้นบ้าน ระบบนิเวศน์ ตนเชื่อมั่นว่าบริษัทที่จะเข้ามาลงทุน ต้องมีทีมศึกษา ไม่ได้ใช้เฉพาะรายงานของรัฐบาลไทยอย่างเดียว
นอกจากนี้ รมช.คมนาคม ยืนยันว่า จะมีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างแน่นอน โดยการมาประชุม ครม.สัญจร ที่จ.ระนองในครั้งนี้ ก็จะมาเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และย้ำว่า รัฐบาลกล้าสบตาประชาชน จะเปิดหูเปิดตาในการรับฟังทุกความเห็น ทั้งนี้ ในวันที่ 23 ม.ค. ถ้ามีโอกาสตนจะเชิญตัวแทนผู้เห็นต่างเข้าพบนายกรัฐมนตรีด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลมีทางออกให้กับชาวประมงพื้นบ้านที่ออกมาคัดค้านหรือไม่ นางมนพรกล่าวว่า ต้องถามความต้องการของชาวประมงก่อนว่า เขาต้องการอะไร และแน่นอนว่า เมื่อมีโครงการใหญ่ๆ เข้ามาจะต้องสูญเสียบางอาชีพไป รัฐบาลต้องหาสิ่งทดแทนที่ดีกว่ามาให้ประชาชน ซึ่งความเปลี่ยนแปลงย่อมต้องนำสิ่งที่ดีกว่าเข้ามาเสมอ ไม่เช่นนั้นโลกคงไม่มาไกลถึงขนาดนี้ อย่างไรก็ตามจากการลงพื้นที่ที่ผ่านมาของตน ไม่ได้พบเฉพาะคนที่เห็นด้วย แต่ไปรับฟังคนที่เห็นต่าง
เมื่อถามว่า ประเด็นแลนด์บริดจ์ ถูกนำมาเป็นประเด็นการเมืองหรือไม่ รมช.คมนาคม กล่าวว่า ขณะที่โครงการนี้ถูกโจมตีลากมาเป็นประเด็นการเมือง ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีของรัฐบาลในการตอบข้อมูลเชิงวิชาการ และความต้องการของประชาชน เปิดกันให้เห็นว่า ถ้าโครงการนี้มา ประชาชนจะสูญเสียอะไร และประชาชนและประเทศชาติจะได้อะไร ถือเป็นเวทีที่ให้รัฐบาลได้ชี้แจง และสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องตรงไปตรงมาได้มากขึ้น