สภากทม.เคาะตั้งคณะกรรมการวิสามัญฯ เคลียร์หนี้สายสีเขียว 2.3 หมื่นล้าน

24 ม.ค. 2567 | 08:16 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ม.ค. 2567 | 08:21 น.

สภากทม.ไฟเขียวตั้งคณะกรรมการวิสามัญฯ เคาะร่างข้อบัญญัติ ดึงเงินสะสมจ่ายขาด เคลียร์หนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียว วงเงิน 2.3 หมื่นล้านบาท เร่งพิจารณาจบภายใน 45 วัน

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า การประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 4) ประจำปีพุทธศักราช 2567 วันนี้ (24 ม.ค.67) ซึ่งมี นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมเสนอร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พ.ศ. ... เบื้องต้นในที่ประชุมได้รายงานสถานะการเงินการคลังของกรุงเทพมหานคร ณ วันที่ 16 ม.ค. 67 ภาระหนี้ตามโครงการต่อเนื่องที่ได้ก่อหนี้ผูกพันแล้ว และเงินสะสมที่ปลอดภาระผูกพัน ณ วันที่ 16 ม.ค. 67 จำนวน 51,804.22 ล้านบาท 

 

“ด้วยกรุงเทพมหานครต้องรับมอบทรัพย์สินระบบเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 และชำระค่างานระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) ตามโครงการดังกล่าว จึงเสนอสภากรุงเทพมหานครให้ความเห็นชอบจ่ายขาดเงินสะสม จำนวน 23,488,692,200 บาท” นายชัชชาติ กล่าว 
 

ทั้งนี้ที่ประชุมสภากรุงเทพมหานครมีมติเห็นชอบหลักการแห่งร่างข้อบัญญัติฯ และให้ตั้งคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พ.ศ. ... จำนวน 23 ท่าน กำหนดเวลาแปรญัตติ 3 วันทำการ และกฎหมายได้กำหนดไว้ให้คณะกรรมการวิสามัญฯ ต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน นับตั้งแต่วันที่สภากรุงเทพมหานครได้รับร่างข้อบัญญัติเป็นครั้งแรก ดังนั้นกมธ.วิสามัญฯ ต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จก่อน 45 วัน เพื่อเสนอให้สภากทม.พิจารณา ในวาระ 2 และ วาระ 3 ได้ทันตามกำหนดเวลาดังกล่าว ซึ่งจะครบ 45 วัน ในสมัยประชุมสภากทม. เริ่มนับตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2567 คือในวันศุกร์ที่ 8 มีนาคม 2567 

 

สำหรับสมาชิกสภากรุงเทพมหานครได้ร่วมอภิปรายในญัตตินี้ ประกอบด้วย นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ส.ก.เขตจอมทอง นายนภาพล จีระกุล ส.ก.เขตบางกอกน้อย นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ส.ก.เขตลาดกระบัง นายสมชาย เต็มไพบูลย์กุล ส.ก.เขตคลองสาน และนายวิรัช คงคาเขตร ส.ก.เขตบางกอกใหญ่  

อย่างไรก็ตามสก. ทุกท่านอภิปรายสนับสนุนร่างข้อบัญญัติฯ นี้ โดยไม่มีใครคัดค้าน จากนั้น ที่ประชุมสภากทม. ได้ลงมติเห็นชอบรับหลักการร่างข้อบัญญัติฯ เป็นเอกฉันท์ 46 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง คือประธานในที่ประชุม จากทั้งหมด 47 คนโดยมีสก. ลุกขึ้นอภิปราย ขอเสนอขยายสมัยประชุมสภากทม.สามัญ สมัยแรก ออกไปอีก 15 วัน ทำให้ ประธานในที่ประชุม ได้สั่งขยายประชุมสภากทม.สามัญสมัยแรกออกอีก 15 วัน จากเดิมวันที่ 15 มกราคม 2567 เป็นวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567