ไทม์ไลน์จ่ายหนี้บีทีเอส 2.3 หมื่นล้าน เงื่อนไขต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว

13 ก.พ. 2567 | 03:36 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ก.พ. 2567 | 03:43 น.

ชัชชาติ เผย กรอบเวลาใช้หนี้บีทีเอส 2.3 หมื่นล้าน หลังสภา กทม.ไฟเขียว จ่อ ประกาศราชกิจจานุเบกษา แย้ม เงื่อนไขต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวยุคคสช.เปลี่ยน

วันนี้ (13 กุมภาพันธ์ 2567) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่ากทม.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมติสภา กทม.อนุมัตินำเงินสะสมกว่า 23,488 ล้านบาท ให้ กทม.ใช้หนี้รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวส่วนต่อขยาย 

นายชัชชาติกล่าวว่า หลังผ่านสภาเรียบร้อยแล้ว ตนจะลงนามและประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยระหว่างนี้ก็จะมีการเจรจาในรายละเอียด ทั้งเรื่องของการรับโอนและค่าใช้จ่ายในการชำระ ซึ่งเป็นไปตามมติสภากทม.ที่มีความเห็นออกมา 2 เรื่อง

นายชัชชาติกล่าวว่า เรื่องแรก ให้มีความรอบคอบ และเป็นประโยชน์กับประชาชน และเรื่องที่สองให้ทำในระยะเวลาโดยเร็วที่สุดเพื่อลดค่าใช้จ่ายหลังใช้เวลานาน ทั้งนี้ ผู้บริหารได้เจรจากับกรุงเทพธนาคม (KT) และภาคเอกชน โดยจะได้ข้อสรุปภายใน 1-2 สัปดาห์นี้จะรู้กรอบเวลา 

นายชัชชาติ กล่าวว่า ขณะเดียวกันก็จะทำคู่ขนานกันไป ในเรื่องที่ต้องแจ้งไปยังนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สภา กทม. มีมติแล้วให้ชำระหนี้การทำสัญญาจ้างการติดตั้งระบบงานระบบรถไฟฟ้าและเครื่องกล (E&M) 

"หลังจากชำระค่าสัญญา E&M จะทำให้เรื่องที่ค้างอยู่ในครม. สมัยใช้คำสั่งหัวหน้าคสช.มาตรา ม.44 จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง เพราะเรื่องที่ค้างอยู่ รวมหนี้ E&M เป็นส่วนหนึ่งในเงื่อนไขการต่อสัญญาสัมปทานกับบริษัทบีทีเอส ดังนั้นเรื่องที่ค้างอยู่ใน ครม. จะไม่ใช่เรื่องปัจจุบันแล้ว"นายชัชชาติกล่าว 

นายชัชชาติกล่าวว่า เรื่องของเงินสนับสนุนเพิ่มเติมจะทำส่งกลับไป ซึ่งจะให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสมต่อไป