นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.ได้อนุมัติเห็นชอบดำเนินการโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 3 เส้นทาง วงเงินรวม 133,146 ล้านบาท ประกอบด้วย
โดยทั้ง 3 เส้นทาง อยู่ระหว่างจัดทำข้อมูลเพื่อเสนอขออนุมัติโครงการฯ หลังจากนั้นรฟท.จะเสนอรายงานผลการประชุมคณะกรรมการฯในครั้งนี้ต่อกระทรวงคมนาคมพิจารณาเห็นชอบภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ก่อนเสนอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
“ในช่วงที่ผ่านมา รฟท.ได้ผลักดันทั้ง 7 โครงการไปพร้อมกัน แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะงบประมาณไม่เพียงพอ ทำให้กรมการขนส่งทาง (ขร.) และรฟท.จำเป็นต้องจัดลำดับความสำคัญแผนดำเนินการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ส่วนกรณีที่รฟท.เร่งรัดเส้นทางรถไฟทางคู่ ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ เนื่องจากเป็นมีแนวเส้นทางระยะสั้น สามารถดำเนินการได้รวดเร็วและมีความคุ้มค่า สอดรับนโยบายของภาครัฐปัจจุบันต้องการเพิ่มการขนส่งชายแดน”
ส่วนประเด็นที่รายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ของโครงการรถไฟทางคู่ ขาดอายุความนั้น เบื้องต้นรฟท.ได้หารือสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) แล้ว โดยสผ.ให้ความเห็นว่าโครงการได้เสนอต่อครม.พิจารณาเห็นชอบทั้ง 7 โครงการไปก่อนหน้านี้แล้ว ส่งผลให้รายงานอีไอเอไม่ได้ขาดอายุความ ซึ่งถือว่าทั้ง 3 เส้นทางจะเป็นโครงการรถไฟทางคู่นำร่องในปีนี้
นายนิรุฒ กล่าวต่อว่า โครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ในเส้นทางอื่นๆ ประกอบด้วย โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 ล้านบาท วงเงิน 24,294 ล้านบาท และโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงสุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 ล้านบาท วงเงิน 67,459 ล้านบาท อยู่ระหว่างจัดทำข้อมูลเพื่อเสนอขออนุมัติโครงการฯ หลังจากนี้จะเร่งรัดเสนอต่อคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. ภายในเดือนมีนาคม 2567 เพราะรฟท.ต้องการให้โครงการรถไฟดำเนินการแล้วเสร็จตามรายเส้นทาง ซึ่งจะทำให้รถไฟทางคู่สายใต้สามารถวิ่งให้บริการได้ยาวขึ้น
นอกจากนี้โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กม. วงเงิน 56,837 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูลเพื่อเสนอขออนุมัติโครงการฯและพิจารณารายงานอีไอเอ คาดว่าจะเป็นเส้นทางรถไฟทางคู่สุดท้ายที่รฟท.จะดำเนินการ เนื่องจากเป็นเส้นทางที่ใช้งบประมาณมาก เพราะมีแนวเส้นทางที่เป็นเขาค่อนข้างเยอะ