เดิมพันครั้งใหญ่ “จีน” จะพลิกเกมในสงครามเซมิคอนดักเตอร์?

30 มี.ค. 2567 | 10:00 น.
อัพเดตล่าสุด :30 มี.ค. 2567 | 10:35 น.

การเดิมพันครั้งใหญ่ของ “จีน” ถูกจับตาว่า จะพลิกเกมในสงครามเซมิคอนดักเตอร์ได้หรือไม่ หลังความทะเยอทะยานสนับสนุนการผลิตในประเทศตั้งเป้าลดการพึ่งพาอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์นำเข้าลงอย่างมาก

สองสามปีที่ผ่านมาการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ทำให้ อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ของจีนหยุดชะงัก แม้ว่าบริษัทจีนจะยังคงสามารถผลิตชิปสำหรับใช้งานในปัจจุบันได้ แต่ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าเทคโนโลยีการผลิตชิปบางอย่าง ทำให้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ที่ล้ำหน้ากว่านี้

อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีน จึงเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญด้วยความทะเยอทะยานที่จะสนับสนุนการผลิตในประเทศ จีนตั้งเป้าลดการพึ่งพาอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ นำเข้าลงอย่างมาก 70-80% ภายในสิ้นปีนี้

ความเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์นี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของจีนในการเพิ่มความสามารถพึ่งพาตนเองของเซมิคอนดักเตอร์ในภาคเทคโนโลยีที่สำคัญ ด้วยการเติบโตอย่างรวดเร็ว การลงทุนที่สำคัญ และความคิดริเริ่มที่ทะเยอทะยานของรัฐบาล บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ของจีนกำลังท้าทายมากขึ้น เช่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสหรัฐฯ 

การก้าวขึ้นสู่ตลาดเซมิคอนดักเตอร์ของจีนเป็นที่จับตา เพราะได้รับแรงหนุนจากขนาดตลาดและการลงทุนเชิงกลยุทธ์ นิทรรศการ "Semicon China 2024" เมื่อเร็วๆ นี้ จัดขึ้นที่ศูนย์นิทรรศการนานาชาติแห่งใหม่ของเซี่ยงไฮ้

ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของจีนในอุตสาหกรรมนี้ มีบริษัทเข้าร่วมมากกว่า 1,100 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นตัวแทนของบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ของจีนที่มาจัดแสดงความสามารถทางเทคโนโลยีและโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรม

 

จุดยืนของจีนในตลาดเซมิคอนดักเตอร์มีความซับซ้อน เเละสามารถมองเห็นจากมุมมองทั้ง "การบริโภคและการผลิต" 

การบริโภค

จีนเป็นผู้บริโภคเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดของโลก คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 50% ของการซื้อชิปทั่วโลก อุตสาหกรรมเทคโนโลยีในประเทศขนาดใหญ่ขับเคลื่อนความต้องการนี้

การผลิต

จีนเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ แต่ตามหลังเทคโนโลยีชิปขั้นสูงเมื่อเทียบกับประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐฯ เกาหลีใต้ และไต้หวัน แต่จีนกำลังเพิ่มกำลังการผลิตในประเทศอย่างรวดเร็ว โดยมีเป้าหมายเพื่อการพึ่งตนเอง ความทะเยอทะยานนี้ได้รับแรงหนุนจากการลงทุนที่สำคัญของรัฐบาลและการขับเคลื่อนเพื่อยกระดับห่วงโซ่คุณค่าทางเทคโนโลยี

ข้อกังวลและการตอบสนองทั่วโลก

การที่จีนมีอำนาจเหนือกว่าในการผลิตชิปรุ่นเก่า (เทคโนโลยีรุ่นเก่า) ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก สหรัฐฯและยุโรปตอบโต้ด้วยความคิดริเริ่มต่างๆ เช่น CHIPS for America Act หรือชื่อเต็มคือ Creating Helpful Incentives to Produce Semiconductors for America Act (กฎหมายสร้างแรงจูงใจให้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์เพื่ออเมริกา) เพื่อตอบโต้การเพิ่มขึ้นของจีนและการกระจายการผลิตชิป โดยรวมแล้วจีนเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ แต่การแข่งขันเพื่อครองตลาดยังคงดำเนินต่อไป

สอดคล้องกับนักวิเคราะห์จาก Barclays ชี้ว่าแผนการอันทะเยอทะยานของจีนที่จะบรรลุความสามารถในการพึ่งพาตัวเอง 70% ในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ภายในปี 2568 นั้น เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางที่ยาวนานมาก แต่ด้วยเงินของรัฐบาลหลายหมื่นล้านดอลลาร์ลงทุนกับการผลิตในท้องถิ่นบทบาทของผู้ผลิตจีนจึงเพิ่มขึ้น และผลผลิตจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าภายใน 5-7 ปี

ผู้เล่นหลักในการพึ่งพาตนเองของจีน

North Hua Chang หนึ่งในบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ของจีน แสดงความมั่นใจนี้ โดยย้ำถึงอิทธิพลของจีนในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ เเละตั้งข้อสังเกตว่าจีนคิดเป็นสัดส่วนหนึ่งในสี่ของการซื้ออุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกในปีที่แล้ว ซึ่งตอกย้ำถึงขนาดตลาดและอิทธิพลอันยิ่งใหญ่ของประเทศ

 Weihua Semiconductor เชี่ยวชาญด้านเซมิคอนดักเตอร์สำคัญสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ได้จัดแสดงเทคโนโลยีขั้นสูงของบริษัท โดยเทียบเคียงกับบริษัทอื่นๆ ในเกาหลีใต้และไต้หวัน สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของจีนในการสร้างนวัตกรรมและแข่งขันในระดับโลกในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์

AMEC ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่อันดับสองของจีน ยังมีบทบาทสำคัญในการเสริมศักยภาพด้านเซมิคอนดักเตอร์ของจีนด้วยการขยายตัวอย่างรวดเร็วของ AMEC โดยเฉพาะในกระบวนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่สำคัญ เช่น การพิมพ์กัดกรด (Etching) 

การสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนผลิตภัณฑ์ในประเทศ บริษัทจีนได้ลดการพึ่งพาอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์จากต่างประเทศลงอย่างมาก ซึ่งมีส่วนช่วยให้เกิดความเป็นอิสระทางเทคโนโลยีของประเทศ

การสนับสนุนและนโยบายของรัฐบาล

นโยบายของรัฐบาลที่มุ่งส่งเสริมนวัตกรรมภายในประเทศและลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ

โครงการริเริ่มต่างๆ เช่น นโยบาย "China First" ให้ความสำคัญกับการใช้ผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์ที่ผลิตในประเทศ เเละในบริษัทเทคโนโลยีของจีน เป็นการส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตและนวัตกรรม

ยุทธศาสตร์ที่สำคัญล่าสุดคือ การอนุมัติปริญญาตรีสาขาใหม่ในจีน โดยเฉพาะสาขา "วิศวกรรมเซมิคอนดักเตอร์" เพื่อสร้างบุคลากรที่จะมาช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถของจีนในสมรภูมิสงครามชิประดับโลก

นอกจากนี้ยังมีสาขาอื่นๆ เช่น สาขาวิทยาศาสตร์ ซึ่งสอดคล้องกับการประชุมสองสภาประจำปีนี้จีนเน้นย้ำถึงเป้าหมายยกระดับการพึ่งพาตนเองและเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยยกให้คอมพิวเตอร์ควอนตัมและชีววิทยาศาสตร์เป็นสาขาที่จีนต้องเปิดกว้างมากขึ้น เเละพร้อมจะยกระดับความพยายามในการพัฒนา Big Data การบินอวกาศเชิงพาณิชย์ และปัญญาประดิษฐ์ (AI) รวมถึงเปิดตัวโครงการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาเชิงกลยุทธ์และเชิงอุตสาหกรรม

การขยายตัวทั่วโลก

ด้วยความสำเร็จในประเทศบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ของจีนจึงมองข้ามขอบเขตและมองหาตลาดต่างประเทศมากขึ้น เช่นการจับมือเป็นพันธมิตรกับผู้เล่นในอุตสาหกรรมระดับโลก แสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานของจีนที่จะแข่งขันในระดับโลก และสร้างจีนให้เป็นกำลังสำคัญในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์

แนวโน้มในอนาคต

จีนยังคงลงทุนมหาศาลในการวิจัย การพัฒนา และการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า ยุคของ "การโจมตีเซมิคอนดักเตอร์ของจีน" อาจใกล้มาถึงแล้ว

ด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนและวิศวกรและนักวิทยาศาสตร์ที่มีความสามารถเพิ่มมากขึ้น จีนจึงพร้อมที่จะปรับโฉมภูมิทัศน์เซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกในปีต่อ ๆ ไป

ที่มา